หมอธีระ อัพเดต หากโอมิครอน BA.2.75 มาแทน BA.5 เสี่ยงป่วยรุนแรง-เสียชีวิต

หมอธีระ โควิด

หมอธีระ ยกผลวิจัยมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น ชี้พบ BA.2.75 มีโอกาสที่มีสมรรถนะในการแพร่ระบาดได้สูงกว่า BA.4, BA.5 และมีความสามารถในการแบ่งตัวมากกว่า เสี่ยงป่วยรุนแรงถึงเสียชีวิต

วันที่ 27 สิงหาคม 2565 นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุถึงผลการศึกษาวิจัยจากมหาวิทยาลัยโทยาม่าและ มหาวิทยาลัยโตเกียว ที่ศึกษาไวรัสโควิด สายพันธุ์โอมิครอน BA.2.75 ความว่า

Omicron BA.2.75 ที่พบครั้งแรกที่อินเดีย โดยระบาดขยายวง และกระจายไปหลายประเทศทั่วโลกนั้น ได้รับการคาดหมายว่าน่าจะค่อย ๆ มาแทนที่ BA.5 ที่ครองการระบาดทั่วโลกในขณะนี้

ล่าสุดทีมงานจากมหาวิทยาลัยโทยาม่า และมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นได้เผยแพร่ผลการวิจัยสองชิ้น ใน bioRxiv เมื่อวานนี้ 26 สิงหาคม 2565

ทีมจากโทยาม่า ชี้ให้เห็นว่า เปลือกนอกส่วน Spike ของไวรัส BA.2.75 นั้นมีการกลายพันธุ์ห่างจากสายพันธุ์ดั้งเดิมมากกว่า BA.4, BA.5

นอกจากนี้ได้ประเมินว่า BA.275 จะมีความสามารถในการจับกับตัวรับ ACE2 ที่ผิวเซลล์เป้าหมายได้แน่นกว่า BA.4, BA.5

ผลการวิจัยของทีมมหาวิทยาลัยโทยาม่าสรุปให้เห็นว่า BA.2.75 มีโอกาสที่มีสมรรถนะในการแพร่ระบาดได้สูงกว่า BA.4, BA.5

ในขณะที่ทีมจากมหาวิทยาลัยโตเกียว ได้ศึกษาในหนูทดลอง เปรียบเทียบพยาธิสภาพในเนื้อปอด หลอดลมเล็ก และถุงลมในปอด ที่เกิดจากสายพันธุ์เดลต้า (B.1.617.2), Omicron BA.5 และ Omicron BA.2.75

ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า Omicron BA.2.75 นั้นมีความสามารถในการแบ่งตัวมากกว่า BA.5 และทำให้เกิดการอักเสบในเนื้อปอด หลอดลมเล็ก และถุงลมในปอด มากกว่า Omicron BA.5 อย่างชัดเจน

สะท้อนให้เราทุกคนต้องป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ เพราะหาก BA.2.75 มาทดแทน BA.5 ในอนาคตอันใกล้ โอกาสที่จะมีปัญหาเรื่องป่วยรุนแรงและเสียชีวิตย่อมเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง เป็นหัวใจสำคัญ