
แม่น้ำมูลหลากท่วม ปิดทางหลวง 226 เชื่อม จ.อุบลราชธานี ไป จ.ศรีสะเกษ ปลายทางเข้าสู่กรุงเทพฯ
วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จ.อุบลราชธานี ปิดกั้นเส้นทางบนทางหลวงหมายเลข 226 ช่วง กม.ที่ 313-324 เชื่อมระหว่างอำเภอวารินชำราบไปอำเภอกันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
เส้นทางนี้มุ่งหน้าต่อไปยังจังหวัดอีสานตอนล่างและเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ใช้การไม่ได้ยาวกว่า 1 กิโลเมตร เนื่องจากแม่น้ำมูลล้นตลิ่งดันกลับ จนน้ำจากลำห้วยขะยุงหลากท่วมเส้นทางดังกล่าวสูงกว่า 70 เซนติเมตร แม้แต่รถบรรทุกก็ผ่านไม่ได้
พ.ต.อ.บุรภัช บุรีภักดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจห้วยขะยุง นำกำลังเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกและบอกเส้นทางกับประชาชนที่ใช้ทาง พร้อมกล่าวว่า ระดับน้ำเริ่มไหลเข้าท่วมถนนและระดับน้ำได้สูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเส้นทางเลี่ยง
โดยให้กลับรถไปใช้เส้นทางวารินชำราบอำเภอสำโรง ต่อไปยังอำเภอกันทรารมย์ หรืออีกเส้นทางคือ ไปทางเขื่อนหัวนา มุ่งหน้า อ.กันทรารมย์ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ผู้ต้องการใช้เส้นทางที่จะเดินออกจากจังหวัดอุบลราชธานี ไปยังจังหวัดใกล้เคียง ให้ตรวจสอบเส้นทางก่อน เพราะการจราจรอาจติดขัด และมีน้ำหลากท่วมถนน เนื่องจากแม่น้ำมูลยังสูงขึ้นต่อเนื่องที่ระดับ 2.83 เมตร
ด้าน พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่าจากสถานการณ์ฝนตกชุกต่อเนื่อง ทำให้น้ำท่วมทางหลวงหมายเลข 226 ระหว่างอุบลราชธานีมุ่งหน้าศรีสะเกษเป็นรอยต่อระหว่างพื้นที่สองจังหวัด บริเวณลำห้วยขะยุง
คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ชั่วโมงละ 3-5 เซนติเมตร และภายในเที่ยงคืน ปริมาณน้ำจะสูงขึ้นหาก ต้องแจ้งเตือนประชาชน เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน
เมื่อตรวจสภาพพื้นที่พร้อมกับ พ.ต.อ.นิลกาฬ พรศักดิ์ ผกก.สภ.กันทรารมย์ และทีมงานปรากฏว่าระยะทางน้ำท่วม 1 กิโลเมตรจริง จึงได้ตัดสินใจร่วมกันว่า เราจะปิดการจราจร 100 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่เวลา 21.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์อุทกภัยจะคลี่คลาย
สภ.กันทรารมย์ ยังทำป้ายเตือนรถที่มาจากจังหวัดศรีสะเกษ จะมุ่งหน้าไปยังจังหวัดอุบลราชธานี พอวิ่งมาถึงสี่แยกกันทรารมย์ให้เลี้ยวขวาไปทางอำเภอโนนคูณไปทางอำเภอเบญจลักษณ์ เมื่อถึงแยกหนองงูเหลือมให้เลี้ยวซ้ายไปยังอำเภอสำโรงเพื่อเข้าจังหวัดอุบลราชธานีต่อไป
….