CNN แจง รายงานข่าวกราดยิง ในศูนย์เด็กเล็ก จนท.สาธารณสุข อนุญาต

กราดยิงหนองบัวลำภู
ภาพจากสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย

สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ ตำหนิ CNN เข้าไปรายงานข่าวในจุดเกิดเหตุกราดยิง ขณะที่ CNN ชี้แจงได้รับอนุญาตแล้ว 

วันที่ 9 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ที่ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว CNN ได้เข้าไปรายงานข่าวในสถานที่เกิดเหตุภายในศูนย์เด็กเล็กอ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ของ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการล้อมที่เกิดเหตุเอาไว้นั้น จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมและจริยธรรมในการนำเสนอข่าวนั้น สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 ตุลาคม ถึงกรณีการรายงานข่าวเหตุกราดยิงในหนองบัวลำภูของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ไว้ว่า

สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ผิดหวังกับการนำเสนอข่าวล่าสุดของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นต่อเหตุกราดยิงในศูนย์เด็กเล็กหนองบัวลำภู ซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบส่วนมากเป็นเด็ก

โดยทีมงานของซีเอ็นเอ็นได้เข้าไปในพื้นที่ที่ระบุชัดเจนว่าเป็นพื้นที่เกิดเหตุโดยไม่ได้รับการอนุญาต ไม่ว่าจะในกรณีใดๆ ก็ตาม นี่คือการกระทำอันไม่เป็นมืออาชีพ และละเมิดจริยธรรมสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวอาชญากรรมอย่างร้ายแรง

สิ่งนี้ไม่ใช่แม้แต่สกู๊ปข่าว หรือตัวอย่างการรายงานข่าวเชิงลึก เพราะไม่มีองค์กรสื่อสารมวลชนใด ทั้งในพื้นที่หรือต่างประเทศที่เตรียมการจะทำในสิ่งผิดมารยาททางจรรยาบรรณ และไม่ควรมีใครแม้แต่คนเดียวที่จะทำมันได้

ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้ความเสียใจและเป็นทุกข์อย่างหนักต่อการสูญเสียครั้งนี้ ทั้งยังมีความกังวลในวงกว้างต่อรูปภาพที่ไม่เหมาะสมซึ่งไม่ควรถูกเผยแพร่ในสังคมและสื่อออนไลน์ เพราะความเคารพเป็นสิ่งที่พึงมีต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัวของพวกเขา

ทั้งนี้ หากสังเกตจะพบว่าประเทศไทยมีภาพความรุนแรงและการล่วงละเมิดในสื่อต่างๆ อย่างไม่เหมาะสม และมีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้

สื่อมวลชนต่างประเทศและสื่อท้องถิ่น ที่ตั้งมั่นไม่ประพฤติผิดจรรยาบรรณ แม้จะอยู่ภายใต้ความสนใจของนานาประเทศ และแรงกดดันจากกองบรรณธิการควรได้รับการยกย่อง

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ควรจะตอบคำถามสั้นๆ นี้ว่า หนึ่งในทีมงานของคุณจะปฏิบัติเช่นเดียวกันนี้กับเหตุการณ์ร้ายแรงในสหรัฐอเมริกาหรือไม่? 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาสำนักข่าว CNN ได้มาตอบข้อความในทวิตเตอร์ของ FCCT ว่า ผู้สื่อข่าวและช่างภาพของ CNN ที่เข้าไปถ่ายทำในสถานที่เกิดเหตุนั้น ได้เข้าไปถ่ายภาพพร้อมกับสื่ออื่นๆ ซึ่งในเวลานั้นเชือกที่ล้อมที่เกิดเหตุได้ถูกนำออก อีกทั้ง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังได้บอกกับทีมงานว่าสามารถไปถ่ายภาพข้างในได้

จากนั้นทีมงานได้เก็บฟุตเทจด้านในประมาณ 15 นาที ก่อนจะออกจากสถานที่ดังกล่าว ทั้งนี้ เป็นเวลาเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ได้นำเชือกมาล้อมที่เกิดเหตุไว้อีกครั้ง ทำให้ทีมข่าวของ CNN ต้องปีนรั้วออกจากที่เกิดเหตุออกมา