กทม. จับมือ กสศ. แก้ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา

กทม. จับมือ กสศ. แก้ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา

ชัชชาติ จับมือกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมเชื่อมโยงข้อมูลแก้ปัญหาเด็กหลุดจากระบบ พัฒนาครูสร้างอนาคตให้กับเมือง

วันที่ 20 ตุลาคม 2565 ในพิธีร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อดำเนินการพัฒนาหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษา สำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ พิการ ด้อยโอกาส และการพัฒนาคุณภาพครู สถานศึกษา ระหว่างกรุงเทพมหานคร และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวถึงบทบาทของกรุงเทพมหานครในด้านการศึกษาไว้ว่า “การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ หลายคนคิดว่าไม่ใช่หน้าที่ของ กทม. แต่เป็นเรื่องของกระทรวงศึกษาธิการ แต่จริง ๆ แล้ว กทม.ดูแลเด็กปฐมศึกษาจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของเด็กวัยปฐมศึกษาทั้งหมดของ กทม. ซึ่งเด็กวัยนี้สิ่งสำคัญคือการพัฒนาการยาก และการพัฒนาการในที่นี้อาจหมายถึงการดูแลตั้งแต่ 9 เดือน จนถึงวัย 6 ขวบ และหากเด็กกลุ่มนี้มีพัฒนาการที่ไม่ดีหรือหลุดจากระบบการศึกษาจะกลับคืนได้ยาก

หน้าที่หลักของ กทม.คือการดูแลการศึกษาให้ไม่แพ้เรื่องของสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ในเรื่องของพันธะสัญญาของสังคม หรือ Social Contract โดยเฉพาะในเรื่องการศึกษาและสาธารณสุขเป็นเรื่องสำคัญที่ กทม.ต้องดูแล และเป็นพันธะสัญญาที่เราต้องดูแลให้ประชาชนทุกคนได้รับความเท่าเทียมกัน ทั้งทางด้านการศึกษาและสาธารณสุข เงินลงทุนที่เราให้เด็กในวันนี้คือการลงทุนให้เมืองและประเทศในอนาคต เพราะหากเด็กมีศักยภาพที่ดีได้ ในอนาคตเค้าจะเป็นส่วนหนึ่งของเมืองที่สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ จ่ายภาษีให้เมืองและดูแลด้านอื่น ๆ ต่อไป”

ชัชชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน กสศ. จะเป็นการลงทุนที่ได้ผลคุ้มค่ามากกว่าการลงทุนใด ๆ ที่เคยมีมา เป็นผลตอบแทนที่มหาศาลมากกว่าตัวเงิน ซึ่ง กทม.ควรร่วมกับกองทุน กสศ.มานานแล้ว เพราะ กทม.น่าจะมีเด็กขาดโอกาสมากที่สุด เนื่องจากเราเป็นศูนย์รวมของเมืองที่มีอาชีพที่หลากหลาย และมีเด็กที่หลุดจากระบบมากมาย แต่เรามองไม่เห็น

ถือเป็นโอกาสดีที่เราได้มีการสำรวจเด็กกลุ่มนี้ว่ามีมากถึง 9,000 คน การเข้ามาดูแลเด็กกลุ่มนี้ของกองทุนถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่จะไม่ใช่การมีประโยชน์กับเด็กและครอบครัวเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์กับเมืองและประเทศ เนื่องจากเราจะมีบุคลากรที่มีคุณภาพ และเป็นส่วนที่เข้มแข็งในการพัฒนาเมืองและประเทศต่อไป

ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือระหว่างกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และกรุงเทพมหานครครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามเจตนารมณ์ในการจัดตั้ง กสศ. ในการส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษาให้ประชาชนมีสิทธิที่จะได้รับและเข้าถึงการศึกษาและการพัฒนาอย่างเสมอภาคและทั่วถึง โดยเฉพาะผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และผู้ด้อยโอกาส

รวมทั้งเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครู ตามวัตถุประสงค์ในมาตรา 5 ตามพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. 2561 ซึ่งกำหนดให้กองทุนดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความยั่งยืน โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระยะเวลา 3 ปีฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ 5 ประการที่สำคัญ ได้แก่

1.สนับสนุนนวัตกรรมการคัดกรองความยากจน การจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข และระบบการติดตามของสถานศึกษาสังกัด กทม. เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และให้การช่วยเหลือเด็กและเยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ นักเรียนพิการ หรือผู้ด้อยโอกาส ที่สอดคล้องกับความถนัดและพัฒนาตนเองตามศักยภาพเป็นรายบุคคล

2.ส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ นักเรียนพิการหรือด้อยโอกาสให้ได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นตามศักยภาพ

3.สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาครู และสถานศึกษาสังกัด กทม. ที่สอดคล้องกับความต้องการและส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพของนักเรียน

4.บูรณาการฐานข้อมูลความช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อสนับสนุนการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ

5.สนับสนุนให้เกิดความร่วมมืออื่นใดที่เกี่ยวข้องกับความช่วยเหลือ ส่งเสริมนักเรียนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ นักเรียนพิการ และด้อยโอกาส เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษาจนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน และพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของครูของสถานศึกษาสังกัด กทม.

ดร.ไกรยสกล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใต้ความร่วมมือนี้ กสศ. และ กทม. จะร่วมกับสำนักการศึกษา สำนักงานเขต และสถานศึกษาสังกัด กทม. ในการร่วมกันวิจัยพัฒนานวัตกรรมต้นแบบระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษาเพื่อป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษาของเด็กเยาวชนในสถานศึกษาสังกัด กทม. ซึ่งประกอบด้วยการพัฒนาฐานและเชื่อมโยงฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศของ กทม. และ กสศ.

รวมทั้งการจัดทำแนวทางการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือและส่งต่อโอกาสสำหรับเด็กและเยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ พิการ และด้อยโอกาส ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาระดับที่สูงกว่าภาคบังคับทั้งในและนอกระบบการศึกษา ให้ได้รับการศึกษาหรือพัฒนา หรือเพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพตามความถนัด และมีศักยภาพที่จะพึ่งพาตนเองในการดำรงชีวิตได้ หรือการให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ผ่านพ้นจากสถานการณ์หรือวิกฤตต่าง ๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา เป็นต้น

โดยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาจะสนับสนุนมาตรการลดความเหลื่อมล้ำแก่กลุ่มเป้าหมายใน กทม. 3 กลุ่มสำคัญ ได้แก่

1.นักเรียนในสถานศึกษาสังกัด กทม. กสศ. จะสนับสนุนเครื่องมือการคัดกรองข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย ระบบฐานข้อมูลสารสนเทศ และเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไข ให้แก่นักเรียนทุนเสมอภาคในสถานศึกษาสังกัด กทม. ตามระเบียบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอน

2.เด็กเยาวชนวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาในพื้นที่ กทม. กสศ. จะสนับสนุนกลไกการให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในภาวะวิกฤตทางการศึกษาในสถานศึกษาสังกัด กทม. ตามระเบียบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนของ กสศ. เพื่อให้เด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติทางการศึกษา หรือได้รับการศึกษาตามศักยภาพหรือบริบทของตนเองต่อไป

3.ครู และสถานศึกษาสังกัด กทม. กสศ. จะสนับสนุนการพัฒนาครูและบุคลากรการศึกษาในสถานศึกษาสังกัด กทม. ต้นแบบทั้ง 50 เขต เพื่อสนับสนุนการขยายผล ยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนในสถานศึกษาสังกัด กทม.

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล
ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล

นอกจากนั้น กสศ.และองค์กรภาคีทั้งในประเทศและต่างประเทศจะร่วมสนับสนุนองค์ความรู้ด้านวิชาการ นวัตกรรมการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การติดตามผลการดำเนินงานตามความร่วมมือนี้ รวมทั้งการขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบาย เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ

สำหรับการลงนามความร่วมมือระหว่าง ‘กรุงเทพมหานคร’ และ ‘กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา’ เพื่อดำเนินการพัฒนาหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษาสำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ พิการ ด้อยโอกาส และการพัฒนาคุณภาพครู สถานศึกษา ได้รับเกียรติจาก ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ร่วมปาฐกถาพิเศษ