ในประเทศ

แพทย์ชนบทเผย ไฟเซอร์เด็กเล็ก กระแสตก หวั่น 3 ล้านโดสหมดอายุ

ไฟเซอร์ฝาแดง เด็กเล็ก
ภาพจาก ชมรมแพทย์ชนบท

ชมรมแพทย์ชนบท เผย ไฟเซอร์เด็กเล็ก กระแสตก แทบไม่มีผู้ประสงค์รับวัคซีน คาดพ่อแม่ยังกังวล จี้ สธ. เร่งสร้างการรับรู้ก่อน 3 ล้านโดสหมดอายุ

วันที่ 21 ตุลาคม 2565 เพจเฟซบุ๊ก ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความ ถึงสถานการณ์การฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็กเล็กที่เริ่มมาตั้งแต่ 12 ตุลาคม 2565 แต่ยังเงียบเหงา หลังผู้ปกครองไม่พาบุตรหลานมารับวัคซีน

โดยชมรมระบุว่า ไฟเซอร์เด็กเล็ก 3 ล้านโดส กระแสไม่มี พ่อแม่กังวล แทบไม่มีผู้ประสงค์รับวัคซีนนี้

ไฟเซอร์ฝาแดงสำหรับป้องกันโควิดในเด็กเล็ก อายุ 6 เดือนถึงไม่เกิน 5 ปี เริ่ม kick off ไปแล้ว 12 ตุลาคม 2565 วันนี้ความต้องการวัคซีนยังต่ำ ซบเซา หาผู้ประสงค์มาฉีดได้น้อยมาก แม้ใน สธ.จะเคยแจ้งว่ามีผู้ลงทะเบียนประสงค์รับวัคซีนแล้ว 4 แสนคน แต่ถึงวันนี้ยังฉีดได้ไม่เท่าไหร่

วันนี้นโยบาย สธ.ชัดว่า มาคนเดียวก็เปิดขวด (ขวดละ 10 โดส) ที่เหลือก็ทิ้งไป แม้ว่าจะเสียดายมาก แต่ทุกโรงพยาบาลก็ทำตามนโยบายนี้

ตามเกณฑ์ ผู้ประสงค์ฉีดต้องได้อย่างน้อย 2 เข็ม หรือจะขอ 3 เข็มก็ได้ แต่ถ้าไม่มีเข็ม 1 ก็จะไม่มีเข็ม 2
วัคซีนชุดนี้ สธ.สั่งซื้อมา 3 ล้านโดส จึงมีความเสี่ยงที่วัคซีนจะหมดอายุ ด้วยพ่อแม่ยังไม่มั่นใจที่จะให้ลูกตนเองฉีดวัคซีนนี้ การสร้างความเชื่อมั่นด้วยการสื่อสารอิงหลักวิชาการคือหัวใจของการเพิ่มยอดรับบริการ ยิ่งในยุคนี้ที่โควิดกลายเป็นโรคหวัดประจำถิ่น

ฝากทาง สธ.ด่วน ๆ สร้างการรับรู้การสื่อสารวงกว้างเรื่องไฟเซอร์เด็กเล็กด้วย อย่าให้เป็นเพียงภาระพื้นที่ในการชี้ชวนเท่านั้น มิเช่นนั้นเก้าอี้ที่รอผู้รับบริการก็จะว่างเช่นนี้ทุกโรงพยาบาล เสียดายวัคซีนที่สั่งซื้อมานะ

ทั้งนี้ สำหรับวิธีการฉีดและผลข้างเคียงของไฟเซอร์เด็กเล็ก หรือไฟเซอร์ฝาแดงนั้น นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า การฉีดให้เด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือน-4 ปี กำหนดให้ฉีดวัคซีน 0.2 ซีซี (3 ไมโครกรัม) จำนวน 3 เข็ม เข็มสองห่างจากเข็มแรก 1 เดือน และเข็มสามห่างเข็มสอง 2 เดือน หลังฉีดให้สังเกตอาการ 30 นาที และติดตามต่อจนครบ 1 เดือน

โดยสามารถให้พร้อมกับวัคซีนอื่น ๆ ในวันเดียวกันได้ หรือห่างกันเท่าใดก็ได้ สำหรับข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง สหรัฐอเมริกามีการฉีดและติดตามล้านกว่าโดส พบว่ามีผลข้างเคียงน้อยกว่าเด็กโต ไม่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรงถึงเสียชีวิต ถือว่าปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กและยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะ MIS-C จากการติดเชื้อด้วย