ศักดิ์สยาม ตรวจสุวรรณภูมิเตรียมความพร้อมรับการประชุมเอเปค

ศักดิ์สยาม ตรวจสุวรรณภูมิ

“ศักดิ์สยาม” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงตรวจสนามบินสุวรรณภูมิ เช็กความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสาร พร้อมประชุมเตรียมความพร้อมรองรับการประชุมเอเปคที่กำลังจะมาถึง

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการให้บริการผู้โดยสารขาเข้าและขาออก และการเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวก ในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้เร่งแก้ปัญหาความแออัดของผู้โดยสารในพื้นที่ท่าอากาศยานตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งจากการตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการให้บริการผู้โดยสารขาเข้าและขาออกในวันนี้ ได้ตรวจความพร้อมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในขั้นตอนการให้บริการและการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร

กระบวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีความคล่องตัวและให้บริการได้รวดเร็ว สำหรับจุดตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการประสานการทำงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการการให้บริการผู้โดยสารเป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น

โดยเน้นย้ำให้ ทอท.วิเคราะห์คาดการณ์ปริมาณความต้องการการเดินทางและเที่ยวบินที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรต่าง ๆ ให้การบริการเกิดความสะดวกรวดเร็วแก่ผู้เดินทาง และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีจำนวนเที่ยวบินหนาแน่น เพื่อลดความแออัดของจำนวนผู้โดยสารในท่าอากาศยาน สำหรับพื้นที่ผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีช่องตรวจอนุญาตทั้งสิ้น 119 ช่องตรวจ

แบ่งเป็นโซนตะวันออกจำนวน 56 ช่องตรวจ สามารถระบายผู้โดยสารได้ 3,360 คน/ชม. โซนกลางจำนวน 20 ช่องตรวจ สามารถระบายผู้โดยสารได้ 1,200 คน/ชม.

โซนตะวันตกจำนวน 43 ช่องตรวจ สามารถระบายผู้โดยสารได้ 2,580 คน/ชม. นอกจากนี้ มีเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติจำนวน 32 เครื่อง แบ่งเป็นขาเข้าจำนวน 16 เครื่อง ขาออกจำนวน 16 เครื่อง

นอกจากนี้ ได้จัดทำเสากั้นทางเดินเพื่อจัดระเบียบพื้นที่ไม่ให้เกิดความแออัดของผู้โดยสารขณะรอรับบริการในขั้นตอนต่าง ๆ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่มอนิเตอร์เพื่อบริหารจัดการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากการตรวจพบว่าดำเนินการได้รวดเร็วขึ้นสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้เพียงพอ

พร้อมเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรักษามาตรฐานการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งมีเที่ยวบินขาเข้าจำนวนมาก ทั้งนี้ จากการตรวจติดตามการดำเนินงานทุกขั้นตอน พบว่าดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถบริหารจัดการได้ดี ไม่มีปัญหาใด ๆ

พร้อมกันนี้ นายศักดิ์สยามได้ประชุมการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการให้บริการผู้โดยสารขาข้าและขาออก รวมทั้งการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) หรือเอเปค 2022 (APEC 2022)

ที่ประชุมได้เตรียมความพร้อมด้านสถานที่ บุคลากร และขั้นตอนการให้บริการ พร้อมกับแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อบูรณาการระหว่างหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม กระทรวงต่างประเทศ กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต เพื่อดำเนินการเตรียมความพร้อมและอำนวยความสะดวกด้านคมนาคมขนส่งให้แก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค

โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เพิ่มช่องตรวจอนุญาตจำนวน 19 ช่องตรวจ เพื่อรองรับผู้เข้าร่วมประชุม ผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC 2022 โดยแบ่งเป็น โซนตะวันออกจำนวน 8 ช่องตรวจ (AE1-8) โซนกลางจำนวน 4 ช่องตรวจ (AM17-20) และโซนตะวันตกจำนวน 7 ช่องตรวจ (AW1-7)

รวมทั้งมอบให้ ทอท.จัดทำคลิปสั้นเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ใช้บริการท่าอากาศยานทราบในทุกช่องทาง ทั้งภายในและภายนอกประเทศ

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมเรื่องหลุมจอดอากาศยานขนาดกลางและขนาดใหญ่ของคณะผู้นำเขตเศรษฐกิจ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เตรียมความพร้อมหลุมจอดอากาศยาน เพื่อรองรับอากาศยานของคณะประมุขและผู้นำประเทศที่เดินทางเข้าร่วมประชุม APEC จำนวน 120 หลุมจอด

โดยสามารถให้อากาศยานของคณะ พักค้างคืนที่หลุมจอด สำหรับเที่ยวบินพาณิชย์จำนวน 4 ลำ และสามารถจอดพักค้างคืนบนพื้นที่จอดอากาศยานเฉพาะจำนวน 16 ลำ (รวมทั้งหมด จำนวน 20 ลำ)

ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถบริหารจัดการได้โดยไม่กระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์อื่น ๆ ในส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองได้เตรียมความพร้อมหลุมจอดอากาศยาน จำนวน 101 หลุมจอด โดยสามารถให้อากาศยานของคณะพักค้างคืนที่หลุมจอดจำนวน 17 หลุมจอด

พร้อมกับมอบหมายให้ ทอท.ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาขนาดอากาศยานและขนาดพื้นที่ในการรองรับให้เหมาะสม โดยเน้นย้ำต้องให้ความสำคัญกับทุกเขตเศรษฐกิจ และดูแลอย่างเต็มที่ทั้งขาเข้าประเทศและขาออกประเทศ รวมทั้งการให้บริการ Ground Handing แก่อากาศยานของผู้นำ การให้พนักงานบริการประจำห้องรับรองพิเศษ การยกเว้นค่าธรรมเนียมต่าง ๆ

โดยมอบหมายให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ดำเนินการบริหารจัดการความคล่องตัวของการจราจรทางอากาศ (Air Traffic Flow Management) ในช่วงเวลาการให้บริการเที่ยวบิน VIP และพิธีการต้อนรับภาคพื้นดิน การบริหารจัดการจราจรทางอากาศ และห้วงอากาศบริเวณพื้นที่ประชุม รองรับมาตรการรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานความมั่นคง ทั้งในกรณีปกติและฉุกเฉิน

พร้อมจัดรถโดยสารสาธารณะเพื่อเชื่อมโยงการเดินทางจากท่าอากาศยานไปยังจุดหมายปลายทางของผู้โดยสาร โดยมอบ ทอท.ประสานรายละเอียดกับกระทรวงการต่างประเทศเพิ่มเติม โดยดำเนินการทุกขั้นตอนต้องเป็นไปตามหลักการและกฎระเบียบ

ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เพิ่มความถี่และความเข้มงวดในการตรวจตราทั้งในพื้นที่เขตการบิน (Airside) และพื้นที่สาธารณะ (Landside) โดยปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหาร ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลการตอบรับเข้าร่วมในแต่ละเขตเศรษฐกิจ มีข้อเสนอในการขอให้รักษาความปลอดภัยที่แตกต่างกัน กระทรวงคมนาคมจึงขอให้กระทรวงการต่างประเทศรวบรวมข้อมูลข้อเสนอการรักษาความปลอดภัยในแต่ละเขตเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับรองต่อไป