ดร.ดอน เผยจีนดร็อปท่าทีนโยบายซีโร่โควิด ไทยลุ้นนักท่องเที่ยวฟื้น

ดร.ดอน เผย จีนดร็อปท่าทีนโยบายซีโร่โควิด ปีหน้าไทยลุ้นนักท่องเที่ยวฟื้น 22 ล้านคน
ภาพจากข่าวสด

ดร.ดอน เผยจีนดร็อปท่าทีนโยบายซีโร่โควิด ปีหน้าไทยลุ้นนักท่องเที่ยวฟื้น 22 ล้าน เศรษฐกิจไทยอาจจะดีกว่าที่คาดไว้

วันที่ 8 ธันวาคม 2565 ดร.ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเสถียรภาพระบบการเงิน สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนาประจำปีของสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ว่าแนวโน้มในปี 2566 สิ่งที่เราจะเห็นคือเทรนด์เศรษฐกิจโลกที่ไม่ดี แบงก์ชาติปรับประมาณการด้านการส่งออกลงมาค่อนข้างเยอะ

ปี 2565 เราเห็นการส่งออกเติบโตที่ 7% แต่ปีหน้าคิดว่าการส่งออกจะเหลือแค่ 1% ถือว่าเป็นการลงที่ค่อนข้างแรง สาเหตุหลักที่มองว่าตัวเศรษฐกิจปีหน้ายังดีกว่าปีนี้มาจากเรื่องการท่องเที่ยว เพราะฉะนั้น ความเสี่ยงอันดับแรกถ้าเกิดอะไรขึ้นกับการท่องเที่ยว ก็เป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจจะไม่เป็นไปตามคาด

จริง ๆ คนก็คุยกับเยอะว่าจะเกิดการระบาดใหม่ เกิดการล็อกดาวน์ทั่วโลก แต่เท่าที่ติดตามเรื่องของสาธารณสุขก็คิดว่าโอกาสเป็นไปได้น้อย

สำหรับเรื่องจีน การ REOPENING ของจีนเป็นสิ่งที่สำคัญ เขาเป็นนักลงทุนกลุ่มหนึ่งที่มาซื้อที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงของไทย การเปิดประเทศของจีนที่บอกว่าเป็นปัจจัยบวกอีกอันหนึ่ง เราเริ่มเห็นมาแล้วในปีนี้ การเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยต่างชาติ ปี 2566 คงมีโอกาสที่จะมีมากขึ้น เพราะธีมของปีหน้าที่เราดูก็คือการเปิดประเทศของจีน

ตอนนี้จีนใช้นโยบาย COVID ZERO คล้าย ๆ ของไทยสมัยก่อนที่ต้องให้ตัวเลขเท่ากับศูนย์ แต่ของไทยถ้าตัวเลขเท่ากับศูนย์มันไม่ไหว เราก็ปล่อย ซึ่งเราก็ผ่านจุดนั้นมาแล้ว แต่จีนตอนนี้การระบาดค่อนข้างรุนแรงไม่แพ้ช่วงโควิดระบาดใหม่ ๆ เลย โดยเฉพาะในเมืองเศรษฐกิจสำคัญ เป็นปัญหาที่จีนกำลังดูอยู่ว่าจะจัดการยังไง

ADVERTISMENT

ประธานาธิบดีจีน (สี จิ้นผิง) บอกว่าต้อง COVID ZERO เพื่อให้จีนไปต่อได้ แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่ไปได้เลย สิ่งที่เราสังเกตก็คือว่าในเมืองจีนเขาหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่อง COVID ZERO เลย

แต่ก่อนจีนจะแพลนว่า DYNAMIC COVID ZERO POLICY คือจะปล่อยเป็นบางครั้ง ล็อกดาวน์เป็นบางส่วน แต่ตอนนี้ในแง่ของภาษาเขาดร็อปลงไปแล้ว

ADVERTISMENT

นักวิเคราะห์เป็นคนตั้งข้อสังเกตว่า การที่ดร็อปนโยบายคือเขาเริ่มเปลี่ยนทีท่าแล้วรึเปล่า อันนี้เอามาจากสถาบันวิเคราะห์แห่งหนึ่ง เขาก็จะแทร็กในเรื่องของมาตรการในประเทศจีน เห็นว่าในหลาย ๆ เมืองการระบาดยังอยู่ในระดับสูง แต่ว่าจะไม่มีการล็อกดาวน์อย่างจริงจังแล้ว จะล็อกแค่บางจุด

ตอนนี้นักวิเคราะห์ทั้งหลายบอกว่าธีมในการลงทุนต่างประเทศมี CHINA REOPENING เราไม่รู้ว่า CHINA REOPENING มันจะช้าหรือเร็ว ตอนนี้คนส่วนมากคิดว่ามันจะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป เพราะปัญหาของจีนคือตัววัคซีน

ซึ่งวัคซีนของจีนอย่างที่เราทราบ คือเป็นวัคซีนที่เราใช้ในช่วงแรก ๆ ของจีนถ้าเอาเฉพาะคนที่ฉีดครบ 2 โดส จริง ๆ เขาถือว่าฉีดได้โอเคเลย ปัญหาคือเรื่องบูสเตอร์เข็มที่ 3 ขึ้นไปเปอร์เซ็นต์ค่อนข้างน้อย โดย ดร.FAUCI เป็นคนที่มีชื่อเสียงเรื่องโควิดในสหรัฐ เขาบอกว่าวัคซีนของที่จีนใช้สู้ของฝั่งตะวันตกไม่ได้

ที่เรารู้วัคซีนไม่ได้ป้องกันการติด แต่วัคซีนช่วยลดอาการที่มันจะรุนแรงได้ดีกว่า ปัญหาของจีนคือห้องไอซียูในโรงพยาบาลมีสัดส่วนต่อประชากรเขามีน้อยกว่าของไทยอีก ความท้าทายของจีนคือถ้าจะค่อย ๆ ปลดแล้วให้มีการติดเชื้อมากขึ้น เขาก็ต้องมีความมั่นใจระดับหนึ่งว่าถ้าติดมากขึ้น ถ้าอาการหนักแล้วต้องเข้าห้องไอซียู จะเพียงพอต่อผู้ป่วย

วันนี้เขาก็เลยบอกว่าจีนจะเปิดประเทศเร็วก็คงไม่ได้ ต้องค่อย ๆ ผ่อนคลายไปเรื่อย ๆ ที่เห็นผ่อนคลายตอนนี้คือเขายอมให้ใช้วัคซีน PFIZER แล้ว ก็คงต้องติดตามต่อไป

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมาผมอยู่ที่สิงคโปร์ ซึ่งสิงคโปร์เปิดประเทศก่อนไทยเล็กน้อย คนยังใส่หน้ากากอนามัยในรถสาธารณะมีเยอะ แต่ถ้าเป็นการประชุมสัมมนาเขาไม่ค่อยจะใส่กันแล้ว เขาไม่ใช่ไม่กลัวติด คนก็ยังติดอยู่ แต่ว่าติดแล้วอาการไม่ได้เยอะ เขาก็เลยปล่อย คงต้องอีกสักระยะที่จีนจะไปถึงจุดนั้น

ทั้งนี้ การ REOPENING ของจีน ถ้าจีนเขาเปิดประเทศได้เร็ว ตัวเลขที่แบงก์ชาติบอกว่านักท่องเที่ยวเข้าไทยในปี 2566 จำนวน 22 ล้านคน ให้เข้ามาประมาณไตรมาส 4/66 แต่ถ้าจีนเปิดประเทศตั้งแต่ต้นปี 2566 การเปิดเร็วกว่าที่คาดนักท่องเที่ยวก็จะมาเยอะกว่าที่คาด เศรษฐกิจไทยอาจจะดีกว่าที่คาดการณ์ไว้