บทสวดโพชฌังคปริตร หน่วยทหารสวดมนต์ถวาย “พระองค์ภา”

บทสวดโพชฌังคปริตร หน่วยทหารสวดมนต์ถวาย

เผยแพร่ บทโพชฌังคปริตร หน่วยทหารสวดมนต์ ถวายพระพรให้ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน 

ตามที่ สำนักพระราชวังแถลงการณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา มีพระอาการประชวร และเสด็จประทับเข้ารับการรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ในเวลาต่อมา ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ รายงานว่า พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.พล.ร.2 รอ. ได้สั่งการให้ นขต./นขต.บก.พล.ร.2 รอ. ถึงระดับกองร้อยทุกหน่วยในทุกพื้นที่ สวดมนต์ เพื่อถวายพระพรชัยมงคล แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงหายจากพระอาการประชวร โดยใช้บทสวด “โพชฌังคปริตร” ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 65 เป็นต้นไป

บทสวดโพชฌังคปริตร คืออะไร ?

บทสวดโพชฌังคปริตร มาจากคำว่า สัมโพชฌงค์ (อ่านว่า สำ-โพด-ชง) ซึ่งแปลว่า องค์แห่งการตรัสรู้พร้อม หมายถึง ธรรมที่สนับสนุนให้ถึงการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์ ดังนั้น ผู้ใดสามารถทำให้โพชฌงค์ 7 เกิดพร้อมขึ้นในตนก็ย่อมตรัสรู้ตามพระอริยเจ้าทั้งหลายได้

โพชฌังคปริตร เป็นบทสวดประเภท สัจกิริยา ซึ่งแปลว่า การตั้งความสัตย์หรือสัจจาธิษฐาน หมายถึงการอธิษฐานในใจโดยอ้างสัจจะ

จึงมีความเชื่อกันว่าการสวดโพชฌังคปริตรจะมีผลต่อการรักษาโรค หัวใจสำคัญอยู่ที่การตั้งสัจจะ ระลึกถึงความจริงของบทสวด คือมีศรัทธาเชื่อมั่นว่าพระพุทธเจ้าทรงใช้โพชฌังคปริตรรักษาพระมหาโมคคัลลานะ พระมหากัสสปะให้หายจากอาพาธ และทรงให้พระจุนทะสวดถวายรักษาอาการประชวรของพระองค์หายได้จริง

เมื่อเชื่อมั่นอย่างนี้ ขณะกล่าวคำสวด และใจของผู้สวดตรงกันเป็นความจริงแล้ว จึงเกิดปีติความอิ่มเอมใจ เมื่อมารวมกับอานุภาพของพระรัตนตรัยย่อมเกิดเป็นพลังพุทธมนต์อันยิ่งใหญ่รักษาโรคให้หายได้

วิธีสวดโพชฌังคปริตร เพื่อรักษาการเจ็บป่วย

การสวดมนต์ให้เกิดอานุภาพรักษาความเจ็บไข้อาจทำได้ 2 วิธี

  1. ผู้ป่วยสวดด้วยตนเอง
  2. ให้ผู้อื่นสวดให้ฟัง

สามารถสวดได้ทุกที่ไม่จำกัด ขอเพียงแต่มีความตั้งใจที่จะสวด จะสวดคำแปลด้วยหรือไม่ก็ได้ แต่ควรอ่านคำแปลเพื่อจะได้รู้ความหมายของบทสวด ทำให้เกิดความศรัทธามากขึ้น

บทสวดโพชฌังคปริตร

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต
อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
(3 จบ)

โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา
วิริยัมปีติปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร
สะมาธุเปกขะโพชฌังคา สัตเตเต สัพพะทัสสินา
มุนินา สัมมะทักขาตา ภาวิตา พะหุลีกะตา
สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ

เอกัสมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง
คิลาเน ทุกขิเต ทิสวา โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ
เต จะ ตัง อะภินันทิตวาโรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ

เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต
จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตวานะ สาทะรัง
สัมโมทิตวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ

ปะหินา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง
มัคคาหะตะกิเลสา วะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ

คำแปล บทสวดโพชฌังคปริตร

โพชฌงค์ 7 ประการ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์ วิริยะสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์ 7 ประการเหล่านี้ เป็นธรรมอันพระมุนีเจ้า ผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวงตรัสไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน

ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตรเห็นพระโมคคัลลานะ และพระมหากัสสปะเป็นไข้ ได้รับความลำบาก จึงทรงแสดงโพชฌงค์ 7 ประการ ให้ท่านทั้งสองฟัง ท่านทั้งสองนั้น ชื่นชมยินดียิ่ง ซึ่งโพชฌงคธรรม โรคก็หายได้ในบัดดล

ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ ในครั้งหนึ่ง องค์พระธรรมราชาเอง (พระพุทธเจ้า) ทรงประชวรเป็นไข้หนัก รับสั่งให้พระจุนทะเถระ กล่าวโพชฌงค์นั้นนั่นแลถวายโดยเคารพ ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย หายจากพระประชวรนั้นได้โดยพลัน

ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ ก็อาพาธทั้งหลายนั้น ของพระผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ทั้ง 3 องค์นั้น หายแล้วไม่กลับเป็นอีก ดุจดังกิเลส ถูกอริยมรรคกำจัดเสียแล้ว ถึงซึ่งความไม่เกิดอีกเป็นธรรมดา ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ เทอญ.