ผู้เสียหายทำงานกดไลก์ยูทูบกว่า 5 พันคน รวมตัวร้องตำรวจสอบสวนกลาง

หลอกลวง งานดูยูทูบ
ภาพจาก ข่าวสด

ผู้เสียหายกว่า 5 พันคนรวมตัวร้องตำรวจสอบสวนกลาง หลังถูกหลอกให้ลงทุน-ทำงานดูยูทูบ มูลค่าความเสียหายหลักพันล้านบาท

วันที่ 26 ธันวาคม 2565 ข่าวสดรายงานว่า ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พร้อมด้วยนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ พาผู้เสียหายกว่า 100 คนเข้าแจ้งความกับตำรวจ

หลังถูกบริษัท JN RICH GROUP หลอกลวงให้ลงทุน ทำงานในโทรศัพท์ แค่กดไลก์ช่องยูทูบที่ทีมงานส่งมาให้แล้วจะได้เงินเป็นค่าตอบแทนสูง โดยคดีนี้มีผู้เสียหายกว่า 5,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท

ทนายไพศาลกล่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายผ่านเพจทนายไพศาลช่วยด้วย ภายใน 1 วัน มีผู้เสียหายมาร้องเรียนกว่า 100 คน จึงตัดสินใจเปิดไลน์กลุ่มใหญ่ ปรากฏว่ามีผู้เสียหายกว่า 5,000 คนมาร้องเรียนในเรื่องเดียวกันว่าถูกบริษัท JN RICH GROUP หลอก

โดยทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือ แค่เข้าไปดู ไปคอมเมนต์ช่องยูทูบที่ทีมงานส่งมาให้ตามจำนวนเงินที่เราลงทุน เราก็จะได้เงินแล้ว เริ่มจากให้ร่วมลงทุน 300 บาท เพื่อเปิดบัญชี จากนั้นทำงานตามที่ทีมงานบอก โดยจำนวนลงทุนมีผลกับจำนวนงานที่ได้รับ หากลงทุนเยอะ ทีมงานก็จะส่งงานมาให้ทำเยอะ ก็จะสมัครไอดีหลายช่อง จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและร่วมลงทุนอย่างง่ายดาย

ทนายไพศาลกล่าวว่า เงินที่ได้จากการทำงานจะถูกฝากในแอปพลิเคชั่นของบริษัทดังกล่าว ผู้เสียหายส่วนใหญ่ก็ลงทุนเยอะ เพราะต้องการได้ผลตอบแทน จึงลงทุนไปเรื่อย ๆ ช่วงแรกก็จะได้เงินเร็ว ค่าตอบแทนเฉลี่ยสูงสุด เงินปันผลจะให้กำไร 1,300 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ ลักษณะคล้ายกับแชร์ลูกโซ่ และ Forex 3D โดยคดีนี้มีผู้เสียหายมากสุดถึง 15 ล้านบาท

โดยผู้เสียหายรู้ตัวว่าตัวเองถูกหลอก เนื่องจากมีข้อความส่งมาทางแอปพลิเคชั่นที่ใช้ทำงานว่า ยูทูบยกเลิกสัญญากับบริษัท ทำให้ไม่สามารถเข้าไปทำงานในช่องทางยูทูบได้ จึงให้ย้ายไปทำในช่องทางไอจีแทน และทำให้ผู้เสียหายต้องลงทุนใหม่ ส่วนเงินที่ได้จากยูทูบนั้นก็ไม่สามารถถอนออกมาได้ เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงนำข้อมูลมาร้องเรียนกับตน

ทนายไพศาลกล่าวว่า จากการตรวจสอบชื่อของบริษัทพบว่าเป็นนายทุนชาวจีน ที่ใช้นอมินีเป็นคนไทย ในการสวมรอยจดทะเบียนมาเปิดบริษัทได้ 2 ปี โดยใช้เงินในการจดทะเบียนเปิดบริษัท 2 ล้านบาท งบการเงินมีไม่ถึงหลักหมื่น แต่บริษัทระดมทุนถึงหลักพันล้าน จากการตรวจสอบแล้วบริษัทนี้ไม่มีที่ตั้งและตัวตนอยู่จริง โดยบริษัทนี้มีแม่ข่ายเป็นคนไทยด้วยกัน เบื้องต้นทราบมาว่าเจ้าของบริษัทได้หนีไปยังประเทศกัมพูชาแล้ว

สำหรับแนวทางกฎหมายที่สามารถดำเนินคดีได้ มีความผิดในฐาน พ.ร.ก.กู้ยืมเงิน, ฉ้อโกงประชาชน, การฟอกเงิน ซึ่งก็จะให้สำนักงานป้องกันและปรับปรามการฟอกเงิน ตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน ซึ่งก็จะเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย คดีในลักษณะนี้ศาลเคยตัดสินจำคุกเป็นแสน ๆ ปีมาแล้ว โดยตนได้ประสานกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.), กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ไว้แล้ว

ยอดเสียหายหลักหมื่นถึงสิบล้าน

ด้านนางหญิง อายุ 50 ปี ข้าราชการบำนาญ ผู้เสียหาย ตัวเองรู้จักการลงทุนกับญาติในหมู่บ้านเดียวกัน เห็นว่าทำงานแล้วได้เงินจริง จึงสนใจ เพราะอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร ก่อนไปซื้อโทรศัพท์และเปิดบัญชีไว้เผื่อทำงาน โดยเชื่อสนิทใจว่าการทำงานจะได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่า เพราะมีข้อมูลเอกสารทุกอย่างครบ

คนที่ให้การแนะนำก็น่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจลงทุนไปเริ่มแรก 1 แสนบาท และทิ้งโทรศัพท์ให้แม่ทีมเอาไปดำเนินการทั้งหมด โดยที่ตัวเองแค่โอนเงินจ่ายเท่านั้น เหตุที่ทำแบบนี้เพราะว่าเชื่อในคำพูดของแม่ทีม มารู้อีกทีก็สูญเงินไปกว่า 10 ล้านแล้ว

ด้านนายเฉลิม อายุ 33 ปีกล่าวว่า ตัวเองเป็นนายหน้าและเป็นผู้เสียหายด้วย ตัวเองเริ่มจากการเป็นลูกค้าก่อน หลังจากนั้นก็มีแม่ทีมชักชวนให้มาช่วยเป็นแอดมิน รับเรื่องและส่งงานให้กับลูกข่ายทุกคน โดยเริ่มแรกให้ค่าตอบแทน 500 บาท ก่อนจะขยับขึ้นเมื่อเดือน พ.ย.เป็น 1,000 บาท

โดยหน้าที่หลัก ๆ คือช่วยเหลือแก้ไขปัญหาการทำงานให้แก่ลูกค้า และส่งเรื่องให้กับแม่ทีมทุกทีม และตนก็จะได้ค่าหักเปอร์เซ็นต์ หากสามารถชวนคนมาร่วมลงทุนได้ โดยตอนนี้ตนก็เสียหายกว่า 70,000 บาท

ส่วนตัวไม่คิดว่านี่คือการหลอกลวง เนื่องจากเงินเข้าออกตลอดเวลา จนมาเจอกับตัวเอง เพราะเงินที่ว่าจ้างไม่สามารถถอนออกมาได้ และถูกหลอกให้ทำงาน แม้แต่หน้าแม่ข่ายตัวเองก็ไม่เคยเห็น

นอกจากกรณีที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายกลุ่มดังกล่าวแล้ว ยังมีกรณีการหลอกลวงให้ทำงานในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะบนทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีวัยรุ่น-เยาวชนจำนวนมากที่อาจไม่เท่าทันกลโกงเหล่านี้และอาจตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว