อธิบดีกรมอุทยาน อ้างถูกกลั่นแกล้ง จากปมขัดแย้ง ชัยวัฒน์

รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา
รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (ภาพจากมติชน)

ผบก.ปปป. เผย “รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา” อธิบดีกรมอุทยาน ยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหารับสินบน อ้างถูกกลั่นแกล้ง เพราะขัดแย้งกับ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร

วันที่ 28 ธันวาคม 2565 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช ทุจริตเรียกรับสินบนโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดว่าจากการสอบปากคำ นายรัชฎา ยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าเรื่องที่เกิดขึ้นถูกกลั่นแกล้ง เหตุเพราะมีปัญหาขัดแย้งส่วนตัวกับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า คำกล่าวอ้างนี้ พนักงานสอบสวนไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากเมื่อพิจารณาจากพยานหลักฐานเกี่ยวกับบทสนทนาระหว่างนายรัชฎา กับ นายชัยวัฒน์ พบว่าเป็นการพูดคุยกันด้วยลักษณะปกติ ไม่มีท่าทีเหมือนกับโกรธหรือขัดแย้งกัน แต่ทั้งนี้ก็เป็นสิทธิ์ของนายรัชฎาที่จะให้การเช่นนั้น เพราะทั้งหมดทั้งมวลเรายึดตามพยานหลักฐานเป็นที่ตั้ง ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ส่วนกรณีการออกหมายเรียกกลุ่มเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมอุทยานฯ ที่ปรากฏรายชื่อบนซองเงินที่พบในห้องทำงานของนายรัชฎา นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการออกหมายเรียกโดยจะให้แล้วเสร็จส่งไปยังกลุ่มบุคคลเหล่านี้ก่อนปีใหม่ เพื่อที่หลังปีใหม่จะได้ทยอยมาเข้าให้ปากคำ และ เริ่มขั้นตอนของการสอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ ประกอบสำนวน

ทางด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จับกุมนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ฐานเรียกรับเงินจากการโยกย้ายตำแหน่งว่า

ขณะนี้ถือว่าหลักฐานยังไม่ชัดเจน 100% พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จึงลงนามในคำสั่งให้นำตัวเข้ามาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลในวันนี้ (28 ธ.ค. 2565)

“เพื่อดึงออกมาจากการเป็นอธิบดี ตามพระราชบัญญัติบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 11 ที่นายกฯมีอำนาจไม่ให้อยู่ตรงนั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่สอบสวนได้สะดวก โดยเรียบร้อย ซึ่งสื่อก็จะเรียกกันว่าเข้ากรุ ก็แล้วแต่ แต่ไม่ใช่การย้าย แต่เป็นการเอาออกมาก่อน ไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่อธิบดี” นายวิษณุกล่าว

นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนการจะปลดออก หรือไล่ออกนั้น ต้องดำเนินการสอบทางวินัย หรือมีความผิดชัดเจน แต่ตอนนี้เอาออกมาก่อน แค่นี้ก็เป็นการลงโทษ 50% แล้ว ส่วนจะย้ายกลับไปหรือไม่ หรือไล่ออกเลยเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง