รอง ผบช.น. เผยผลตรวจเลือด เสี่ยเบนท์ลีย์ พบสารเสพติดในร่างกาย อยู่ระหว่างแยกสารประกอบ-เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม
วันที่ 13 มกราคม 2566 จากกรณีรถหรูเบนท์ลีย์ แซงซ้าย จนพุ่งชนรถยนต์และรถดับเพลิง เสียหายทั้ง 3 คัน ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย จนต่อมาประชาชนตั้งข้อสังเกตถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ให้คนขับเบนท์ลีย์เป่าแอลกอฮอล์ทันที แล้วมาตรวจเลือดที่ รพ.ตำรวจ มีรายงานว่าไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ระดับ 10 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เท่านั้น กฎหมายถือว่าไม่เข้าข่ายเมาแล้วขับ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ล่าสุด มติชน รายงานว่า พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. โฆษก บช.น. เปิดเผยผลการตรวจเลือดของ เสี่ยคนขับรถเบนท์ลีย์ ว่าพบสารเสพติดอยู่ในร่างกาย ดังนี้
- เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์)
- เคตามีน (ยาเค)
- ไดอะซีแพม (ยานอนหลับ)
- นอร์ไออะซีแพม (ยานอนหลับ)
- โอปิออยด์ (ยาแก้ปวด)
ขณะนี้ อยู่ระหว่างการแยกสารประกอบว่าเป็นยาเสพติดประเภทใด โดยหลังจากนี้ตำรวจเตรียมเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติดขณะขับรถและข้อหาอื่น ๆ เพิ่มเติมต่อไป