ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศควบคุมโฆษณาฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้แล้ว

ราชกิจจานุเบกษา

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศควบคุมการโฆษณา ฉบับใหม่ กำหนดเกณฑ์การโฆษณา-คำโฆษณาที่เข้าข่ายไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค มีผลบังคับใช้แล้ว

วันที่ 16 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา เรื่อง แนวทางการใช้ข้อความโฆษณาที่มีลักษณะเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงอันยากแก่การพิสูจน์และแนวทางการพิสูจน์เพื่อแสดงความจริงเกี่ยวกับข้อความโฆษณา พ.ศ. 2565

โดยระบุว่า โดยที่ปัจจุบัน การโฆษณาสินค้าหรือบริการสามารถกระทำได้หลายรูปแบบ โดยอาศัยสื่อต่าง ๆ เช่น สื่ออิเล็กทรอนิกส์ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อป้ายโฆษณา หรือสื่อสังคมออนไลน์ ที่สามารถกระทำการโฆษณาไปได้ทั่วโลก ซึ่งข้อความที่ผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้กระทำการโฆษณาใช้ในการโฆษณามีลักษณะเป็นการเชิญชวนหรือชักจูงใจให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าหรือบริการ โดยจะพรรณนาถึงข้อดี คุณภาพที่โดดเด่น

แต่ผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้กระทำการโฆษณา ไม่สามารถพิสูจน์เพื่อแสดงความจริงได้ตามที่ได้มีการอ้างอิงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรายงานทางวิชาการ ผลการวิจัย สถิติการรับรองของสถาบันหรือบุคคลอื่นใด หรือใช้ข้อความที่ยากแก่การพิสูจน์ เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นและเกิดความต้องการซื้อสินค้าหรือบริการและเพื่อให้การโฆษณาสินค้าหรือบริการมีความชัดเจน ถูกต้องเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค

ประกอบกับเพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้กระทำการโฆษณา ตลอดจนเพื่อให้การพิจารณาและการใช้อำนาจของคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณาตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 เป็นไปด้วยความถูกต้อง เป็นธรรม โปร่งใส

เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 จึงกำหนดแนวทางการใช้ข้อความโฆษณาที่มีลักษณะเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงอันยากแก่การพิสูจน์และแนวทางการพิสูจน์เพื่อแสดงความจริงเกี่ยวกับข้อความโฆษณา

สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ คือการกำหนดiรูปแบบข้อความโฆษณา ไม่ว่าจะกระทำทางสื่อโฆษณาใดก็ตาม จะต้องมีข้อความเป็นภาษาไทยที่สามารถเห็น ฟัง หรืออ่านได้ชัดเจนตามประเภทของสื่อโฆษณา ไม่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ถ้าข้อความโฆษณาทำเป็นภาษาต่างประเทศต้องมีคำแปลภาษาไทยกำกับข้อความที่เป็นสาระสำคัญด้วยทุกครั้ง

ข้อความที่ใช้เป็นหลักในการโฆษณาทางสื่อต่าง ๆ ต้องแสดงให้เห็น อ่าน ฟังได้อย่างครบถ้วน ชัดเจน และไม่ทำให้ผู้บริโภคหลงผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ

ขณะเดียวกัน ประกาศฉบับดังกล่าว มีการแนบท้ายตัวอย่าวข้อความมโฆษณาที่อาจเข้าข่ายเป็นข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ตามที่มีการประกาศไว้ 4 รูปแบบ อาทิ เห็นผลทันที เห็นผลภายใน 7 วัน ไม่ถูกใจยินดีคืนเงิน รับประกันความพึงพอใจ