กรมอุตุฯเตือน 25-26 ก.พ. อากาศเย็น-หนาวอีกรอบ อุณหภูมิลด 2-5 องศา

มวลอากาศเย็น-ยอดดอย ยอดภู ทะเลหมอ
เครดิตภาพ: Orapin Wachangngoen

กรมอุตุฯเตือนช่วง 20-26 ก.พ.นี้ มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ อากาศจะเย็นลงอีก 1-5 องศา กับมีลมแรง เฉพาะช่วง 24-26 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา และช่วง 25-26 ก.พ.ลดลง 2-5 องศา ยอดดอยและยอดภูยังหนาวเย็นถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-9 องศา ภาคกลาง กทม. และปริมณฑลเย็นสุดรอบนี้ 17-20 องศา

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศ 7 วันข้างหน้า หรือระหว่างวันที่ 20-26 กุมภาพันธ์ 2566 ว่า การคาดหมายอากาศทั่วไป ในช่วงวันที่ 20-24 ก.พ. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน แต่ยังทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 25-26 ก.พ. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง

สำหรับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ ตลอดช่วง สำหรับในช่วงวันที่ 25-26 ก.พ. 66 ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว

การคาดหมายอากาศรายภาค ระหว่าง 20-26 กุมภาพันธ์ 2566

ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 21-22 ก.พ. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-36 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-11 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 23-26 ก.พ. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 12-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 21-24 ก.พ. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 25-26 ก.พ. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 21-23 ก.พ. 66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ก.พ. 66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลางอุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศา

ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 21-24 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 25-26 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 21-24 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 25-26 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนอง 20-40% ของพื้นที่

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 20-24 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 25-26 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส

กรุงเทพฯและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 20-24 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 25-26 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

อากาศ กทม. 20-26 ก.พ.