ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 4 พ.ศ. 2566 กำหนดราคาขายปลีกหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ที่ผลิตภายในประเทศ ไม่สูงกว่าชิ้นละ 2.50 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) มีผลบังคับใช้ในทุกทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาหนึ่งปี ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2566 เรื่อง การกำหนดราคาจำหน่ายและการแจ้งข้อมูลหน้ากากอนามัย ลงนามโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
สำหรับสาระสำคัญของประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 5 พ.ศ. 2565 เรื่อง การกำหนดสินค้าควบคุมเพิ่มเติมลงวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2565 จึงทำให้ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2565 เรื่อง การกำหนดราคาจำหน่ายและการแจ้งข้อมูลหน้ากากอนามัย ลงวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2565 สิ้นผลใช้บังคับ
ประกอบกับคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการได้พิจารณาทบทวนการใช้อำนาจกำหนดมาตรการดังกล่าวแล้ว เห็นควรคงมาตรการให้ผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัย จำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาไม่สูงกว่าราคาที่กำหนด รวมทั้งให้ผู้ผลิตแจ้งต้นทุนการผลิตและผู้นำเข้าแจ้งราคานำเข้า และแจ้งให้ทราบภายในวันที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ราคาหน้ากากอนามัยสอดคล้องกับต้นทุน ค่าใช้จ่าย และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาหนึ่งปีตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป เว้นแต่จะมีการออกประกาศใหม่ (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป) โดยการกำหนดราคาจำหน่าย และให้ผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ที่ผลิตภายในประเทศจำหน่ายปลีกในราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ไม่สูงกว่าชิ้นละ 2.50 บาท
และให้ผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ที่นำเข้าจากต่างประเทศ หรือหน้ากากอนามัยอื่นที่นำเข้าจากต่างประเทศหรือที่ผลิตภายในประเทศ ยกเว้นหน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ จำหน่ายในราคาไม่สูงกว่าราคาที่คำนวณจากวิธีการ ดังต่อไปนี้
และให้ผู้ผลิตหน้ากากอนามัยอื่นที่ผลิตภายในประเทศ ยกเว้นหน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แจ้งต้นทุนการผลิตที่เป็นปัจจุบัน โดยให้แจ้งภายในวันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ