ดีเจ.แมน-ใบเตย รับเครียด แต่ไม่คิดหนี หลังอัยการสั่งเลื่อนคดี Forex-3D

ดีเจแมน-ใบเตย
ศูนย์ภาพเครือมติชน

อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีใบเตย-ดีเจ.แมน กับพวกฉ้อโกงแชร์ Forex-3D เหตุมีบางประเด็นที่ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ นัดใหม่ 10 เม.ย. ขณะที่ ดีเจ.แมน-ใบเตยรับเครียดทุกวันแต่ไม่เคยคิดหลบหนี

วันที่ 16 มีนาคม 2566 มติชน รายงานว่า ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายพัฒนพล กุญชร หรือ ดีเจ.แมน และ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย ผู้ต้องหาในคดี แชร์ Forex-3D เดินทางมาเพื่อฟังคำสั่งพนักงานอัยการเห็นพ้องตามสำนวนของดีเอสไอหรือไม่อย่างไร

หลังพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนพิเศษ หรือดีเอสไอ ดำเนินคดีแก่บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (Forex-3D)

เมื่อถึงเวลาพนักงานอัยการได้แจ้งเลื่อนฟังคำสั่งฟ้อง ทั้ง 8 คน ไปเป็นวันที่ 10 เม.ย. 66 เนื่องจากมีเอกสารในคดีจำนวนมาก และมีบางประเด็นที่ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ

ดีเจแมน-ใบเตย
ศูนย์ภาพเครือมติชน

นายพัฒนพล หรือ ดีเจ.แมน กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องมีความเครียดทุกวัน เพราะไม่เคยพบเหตุการณ์แบบนี้ การเป็นคนที่มีชื่อเสียงทำให้ส่งผลกระทบกับหลายอย่างในชีวิต โดยเฉพาะเรื่องงานที่น้อยลง และการที่อัยการมีคำสั่งเลื่อนในวันนี้ออกไปเป็นวันที่ 10 เม.ย.นี้ ทำให้ตนเข้าใจกระบวนการกฎหมาย ว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและซับซ้อน เพราะมีเอกสารจำนวนมากที่อัยการต้องพิจารณาอย่างละเอียด

ซึ่งตนและใบเตยต้องขอขอบคุณที่ทำให้ตนมีเวลาไปปรึกษาทนายความในการต่อสู้คดี และที่ผ่านมาตนและใบเตยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในทุกขั้นตอนตั้งแต่ไปรายงานตัว การส่งเอกสาร ไม่เคยหลบหนีตามที่เคยมีข่าวออกไปก่อนหน้านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้เรียกสอบผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 16 คน ภายหลังการรวบรวมพยานหลักฐาน ได้มีความเห็นสรุปสำนวนคดีสั่งฟ้องเพียง 8 คน ประกอบด้วย

นายพัฒนพล กุญชร หรือ ดีเจ.แมน, น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย, นายฉัตรชัย หรือเสือ คชทิน, นายธีร์ภัสกร หรือมาร์ค กิมวังตะโก, นายสุรนาถ นาคมุสิก, นายอายุวัต ชัยเมธนากูล, นายแดริล ยัง และนายอดัม โพการี ซึ่งนายอดัม เป็นชาวฮังกาเรียนและกลับประเทศไปนานกว่า 1 ปีแล้ว

ส่วนความผิดของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ถูกพนักงานสอบสวนดีเอสไอสั่งฟ้องในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน