
สธ. เผยคนเลิกใส่หน้ากากทำไข้หวัดใหญ่ระบาดเพิ่ม 3 เท่า เร่งรณรงค์ฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยง ด้านไข้เลือดออกเริ่มชะลอแต่ยังพบผู้ป่วยต่อเนื่องในบางจังหวัด
วันที่ 21 กันยายน 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากมีการประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง ประชาชนผ่อนคลายเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยลง พบว่าอัตราการติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่ที่มีผู้ป่วยมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่า
- ครม.เคาะแล้ว ซื้อสินค้าลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 5 หมื่นบาท เริ่ม 1 ม.ค. 67
- MOTOR EXPO 5 วัน ค่ายอีวี BYD ลุ้นแซงโตโยต้า ขึ้นผู้นำขายสูงสุด
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
โดยปี 2566 นี้ไข้หวัดใหญ่มีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้น ตามข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-9 กันยายน 2566 มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่จำนวน 154,829 ราย อัตราป่วยคิดเป็น 233.95 ต่อประชากรแสนคน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย อัตราป่วยตายอยู่ที่ร้อยละ 0.001
ด้วยเหตุนี้จึงเร่งรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่ม โรคอ้วน หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
พร้อมมีหนังสือถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แจ้งแนวทางและขอความร่วมมือในการเตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ทั้งในโรงเรียน สถานศึกษา เรือนจำ ทัณฑสถาน สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ค่ายทหาร
ไข้เลือกออกเริ่มชะลอ
ด้านโรคไข้เลือดออกซึ่งปีนี้ระบาดหนักเช่นกันนั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-13 กันยายน 2566 มีผู้ป่วย 91,979 ราย อัตราป่วย 139.09 ต่อประชากรแสนคน ผู้เสียชีวิต 93 ราย จาก 44 จังหวัด อัตราป่วยตายอยู่ที่ร้อยละ 0.1
โดยพื้นที่อัตราป่วยสูง ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ประเด็นสำคัญคือ พบอัตราป่วยสูงในเด็กอายุ 5-14 ปี และกลุ่มอายุ 15-24 ปี แต่อัตราป่วยตายกลับสูงในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55-64 ปี อัตราป่วยตายสูงสุด ร้อยละ 0.21 รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 25-34 ปี อัตราป่วยตายร้อยละ 0.17
ภาพรวมสรุปได้ว่าผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ที่เป็นไข้เลือดออกจะมีความเสี่ยงเสียชีวิตมากกว่าเด็ก 2-3 เท่า เนื่องจากส่วนใหญ่เมื่อป่วยมักไปพบแพทย์และได้รับการรักษาช้าเกินไป
ดังนั้น หากมีไข้ รับประทานยา 2 วันแล้วไม่ดีขึ้น ขอให้รีบไปพบแพทย์ ที่สำคัญ ห้ามซื้อยาชุด ไอบูโพรเฟน แอสไพริน หรือยากลุ่มเอ็นเสดมารับประทานเด็ดขาด
นพ.ชลน่านย้ำว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกของประเทศไทยในปีนี้ค่อนข้างสูง แม้ขณะนี้การระบาดเริ่มชะลอตัว แต่ยังพบผู้ป่วยต่อเนื่องในบางจังหวัด ดังนั้นมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่ดีที่สุด คือ การทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ควบคู่ไปกับการกำจัดยุงตัวแก่ในพื้นที่ระบาด และป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด
โดย สธ.ได้ใช้กลไกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพิ่มความร่วมมือในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่และสถานที่เสี่ยง เช่น โรงเรียน วัด ชุมชน และโรงงาน