
ฉลอง ภักดีวิจิตร เจ้าพ่อหนังแอ็กชั่นเมืองไทย เสียชีวิตอย่างสงบในวัย 93 ปี
วันที่ 13 กันยายน 2567 มติชนรายงานว่า นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เปิดเผยว่า สวธ. โดยกองกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม ได้รับการประสานงานจากคุณบุญจิรา ตรีริยะ (ภักดีวิจิตร) บุตรสาวของ นายบุญฉลอง ภักดีวิจิตร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ผู้กำกับ-ผู้สร้างภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) พ.ศ. 2556 ว่า นายบุญฉลอง ภักดีวิจิตร ถึงแก่กรรมอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี เวลาประมาณ 15.30 น.
โดยขณะนี้กำลังรอผลการวินิจฉัยการถึงแก่กรรมอย่างเป็นทางการ ซึ่ง สวธ.จะแจ้งกำหนดการพิธีรดน้ำศพ และกำหนดการสวดพระอภิธรรม ในลำดับต่อไปเมื่อทราบข้อมูลจากทายาทแล้ว
ทั้งนี้ ศิลปินแห่งชาติที่เสียชีวิตจะได้รับสวัสดิการช่วยเหลือตามกฎกระทรวงกำหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2555 ดังนี้ เงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิต จำนวน 20,000 บาท ค่าเครื่องเคารพศพ จำนวน 3,000 บาท เงินค่าจัดพิมพ์หนังสือเผยแพร่ผลงาน จำนวน 150,000 บาท
นายบุญฉลอง ภักดีวิจิตร หรือนายฉลอง ภักดีวิจิตร ท่านคือศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ผู้กำกับ-ผู้สร้างภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พุทธศักราช 2474 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรชายคนที่สองจากทั้งหมดสี่คนของนายพุฒ ภักดีวิจิตร อาชีพรับราชการ และนางลิ้นจี่ ภักดีวิจิตร อาชีพแม่บ้าน พี่น้องทุกคนล้วนอยู่ในวงการภาพยนตร์ทั้งสิ้น ได้แก่ วิจารณ์ ภักดีวิจิตร เขียวหวาน ภักดีวิจิตร และวินิจ ภักดีวิจิตร นายฉลองสำเร็จการศึกษาระดับเตรียมอุดมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนอำนวยศิลป์
ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์โดยได้แรงบันดาลใจจากบิดาเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ และคุณอาเป็นผู้ถ่ายภาพและกำกับการแสดง เรียกว่าอยู่ในสายเลือดตั้งแต่เกิด ในวัยเพียง 19 ปีก็ได้ก้าวเข้ามาเป็นช่างถ่ายภาพยนตร์ ถ่ายภาพยนตร์เรื่องแรก เรื่องแสนแสบจากบทประพันธ์ของไม้เมืองเดิม หลังจากนั้นได้เริ่มศึกษาขบวนการทำภาพยนตร์และเทคนิคต่าง ๆ ด้วยตนเอง จากหนังสือคู่มือรวบรวมขบวนการถ่ายทำของประเทศสหรัฐอเมริกา
พัฒนาการถ่ายทำภาพยนตร์มาเป็นลำดับ ไม่เคยหยุดนิ่งจนประสบความสำเร็จสูงสุดด้านการถ่ายทำภาพยนตร์ ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองพระราชทาน พระสุรัสวดี ถึงสองปีซ้อนในฐานะช่างถ่ายภาพยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่องผู้พิชิตมัจจุราชและละอองดาว หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการถ่ายทำภาพยนตร์มาเป็นเวลาหลายปีจึงได้ผันตัวเองมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์
โดยกำกับภาพยนตร์เรื่องแรก คือ เรื่องจ้าวอินทรีย์ นำแสดงโดยมิตรชัย บัญชา และพิสมัย วิไลศักดิ์ ต่อมาได้สร้างสรรค์ผลงานมากมาย ผลงานที่สร้างชื่อเสียง เช่น สอยดาวสาวเดือน ฝนใต้ ฝนเหนือ ทอง ขบวนการพยัคฆ์ร้าย ตัดเหลี่ยมเพชร เป็นต้น
ข้อมูล : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม