
ไตรมาส 2/68 ได้ฤกษ์กดปุ่มแกรนด์โอเพนนิ่ง เปิดใช้ท่าเรือพระราม 7 อย่างเป็นทางการ เป็นไปตามสโลแกนของหน่วยงานน้ำ “จท.-กรมเจ้าท่า” ที่บอกว่า “ท่าเรือยุคใหม่ สะดวก ปลอดภัย เทคโนโลยีก้าวไกล ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” โดยท่าเรือพระราม 7 ถูกดีไซน์ให้เป็นท่าเรือโดยสารอัจฉริยะ และเป็น 1 ในแผนพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะอีก 29 แห่ง
โดย “มนพร เจริญศรี” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กำกับดูแลกรมเจ้าท่า เป็นประธานในพิธีเปิดท่าเรือพระราม 7 พร้อมระบุว่า ได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่า พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะทางน้ำให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตลอดจนเชื่อมโยงกับระบบขนส่งรูปแบบอื่น

นโยบายมอบหมายสำคัญ ยังรวมถึงการส่งเสริมการเดินทางทางน้ำ และการท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา สู่ท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Pier) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ภายใต้นโยบาย “คมนาคม เพื่อโอกาสประเทศไทย” และ “ราชรถยิ้ม” เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ ด้วยการเชื่อมโยงโครงข่าย “ล้อ-ราง-เรือ” อย่างไร้รอยต่อ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยทั้งประเทศ
“รมช.มนพร” กล่าวว่า ท่าเรือพระราม 7 เป็น 1 ในท่าเรือที่ได้รับการยกระดับให้เป็นท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Pier) เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่เมืองและแหล่งท่องเที่ยว โดยเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างกรมเจ้าท่า กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
สำหรับการออกแบบท่าเรืออัจฉริยะแห่งนี้ มีพื้นที่ใช้สอย 700 ตารางเมตร มีโป๊ะเทียบเรือขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ ระบบวัดอุณหภูมิเพื่อคัดกรองคนมีไข้ก่อนเข้าพื้นที่ และปัญญาประดิษฐ์ AI จดจำใบหน้า กล้องวงจรปิด ระบบแจ้งเตือนการรับน้ำหนักโป๊ะเทียบเรือ ระบบแสงไฟอัจฉริยะ ทางลาด และห้องน้ำผู้พิการ
ระบบอัจฉริยะ ยังรวมถึงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตพลังงานหมุนเวียน ระบบไฟอัจฉริยะที่เปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา และสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger) โดยคาดการณ์ว่าในปี 2570 จะมีปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางด้วยระบบสาธารณะทางน้ำ เฉลี่ย 53,000 คนต่อวัน สามารถลดก๊าซเรือนกระจก ประมาณ 280,230 ตัน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
ผู้บริหารกรมเจ้าท่า “กริชเพชร ชัยช่วย” อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมเจ้าท่ามีแผนพัฒนาท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา 29 แห่ง ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ 12 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือกรมเจ้าท่า สะพานพุทธ นนทบุรี สาทร ท่าช้าง ท่าเตียน ราชินี พายัพ บางโพ พระราม 5 พระปิ่นเกล้า พระราม 7
โดยอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง 2 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือปากเกร็ด ปัจจุบันโครงการปรับปรุงพัฒนาท่าเรือมีความคืบหน้า 68% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2568 และท่าเรือเกียกกาย โดยทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง
ท่าเรือที่เหลือ กรมเจ้าท่าได้รับจัดสรรงบประมาณปี 2568 จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือเทเวศร์ กับท่าเรือโอเรียนเต็ล และบรรจุในแผนดำเนินการของบประมาณปี 2569 จำนวน 13 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือราชวงศ์ สี่พระยา พรานนก ซังฮี้ ท่ารถไฟ วัดตึก วัดสร้อยทอง วัดเขมา เขียวไข่กา พิบูลสงคราม 1 วัดเทพนารี วัดเทพากร และพิบูลสงคราม 2