ในประเทศ

“เจ้าสัวธนินท์” ขึ้นเวทีทอล์กพิเศษ เปิดตัวหนังสือ “ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว” คนฟังแน่นฮอล

วันนี้ (วันที่ 6 ตุลาคม 2562) เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) ร่วมกับสำนักพิมพ์มติชน จัดงานเปิดตัวหนังสือ “ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว” ณ The Portal Ballroom อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในงานเปิดตัวสือมีกิจกรรมพิเศษ “ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว Exclusive Talk” ซึ่ง ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ขึ้นเวทีพูดคุย โดยมีสรกล อดุลยานนท์ เจ้าของนามปากกา “หนุ่มเมืองจันท์” ดำเนินรายการ

ภายในงานมีผู้บริหาร บมจ.มติชน ครอบครัวเจียรวนนท์ ผู้บริหารในเครือ ซี.พี. และนักธุรกิจคนดังหลายคนเข้าร่วมแสดงความยินดี มีผู้เข้าร่วมฟังเอ็กซ์คลูซีฟทอล์กครั้งนี้เต็มความจุห้องเป็นจำนวนกว่า 800 คน

นายธนินท์ เจียรวนนท์ เปิดเผยว่า ใช้เวลาเขียนหนังสือ “ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว” นานถึง 8 ปี เพราะว่า ต้องพยายามทบทวนดูว่าในระหว่างที่เขียนหนังสืออยู่นั้นมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ มีกรณีศึกษาอะไรใหม่ ๆ ที่จะเขียนออกไปแล้วเป็นประโยชน์กับคนอ่านมากกว่าที่เขียนไปแล้วหรือไม่ ส่วนเหตุผลที่เขียนหนังสือบอกเล่าประสบการณ์ของตัวเอง เพราะมองเห็นว่าการสร้างความสำเร็จของซี.พี.จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน

ส่วนเหตุผลที่เลือกบอกเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ในรูปแบบหนังสือ เพราะหนังสือสามารถเก็บเป็นที่ระลึกได้ ถ้าทำเป็นวิดีโอ บางทีไฟล์อาจหายไปได้ แต่หนังสือสามารถเก็บไว้ได้หลายรูปแบบมากกว่า ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า “ยังมองไม่เห็นว่าหนังสือจะหมดไป”

ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์เปิดเผยถึงที่มาของชื่อหนังสือว่ามาจากหลักคิดและการปฏิบัติตัวของตนเองที่ว่า “ในชีวิตผมไม่เคยฉลองความสำเร็จอะไร เพราะผมรู้ว่า พอสำเร็จแล้วมันจะตามมาด้วยปัญหา ยิ่งสำเร็จใหญ่ปัญหาก็ยิ่งจะใหญ่ เราต้องเตรียมตัวแก้ปัญหา ฉะนั้นผมดีใจแค่วันเดียว ทุกวันต้องศึกษาว่าเรามีอะไรต้องเปลี่ยนแปลงไหม เราอย่าไปอิจฉาใคร เราต้องดูตัวเอง สร้างตัวเอง เปลี่ยนแปลงตัวเอง”

ในอีกด้านหนึ่ง นายธนินท์บอกว่า เมื่อล้มเหลวก็เช่นกัน ไม่ควรกลุ้มใจเกินหนึ่งวัน เพราะความกลุ้มใจไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ควรคิดว่า ไม่มีใครทำสำเร็จทุกเรื่อง หากล้มเหลวแล้วควรกลุ้มใจแค่วันเดียว จากนั้นคิดทบทวนว่าล้มเหลวเพราะอะไร เพื่อเป็นกรณีศึกษาไม่ให้ล้มเหลวอีกครั้ง

นอกจากนั้นนายธนินท์ได้บอกเล่าประสบการณ์และให้คำแนะนำนักธุรกิจหลายเรื่อง อย่างการประเมินความเสี่ยงในการลงทุน ซึ่งทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ซี.พี.จะพิจารณาว่าการลงทุนเสี่ยงมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน หากเสี่ยง 30 มีโอกาสชนะ 70 จึงจะตัดสินใจทำ และหากเป็นการลงทุนที่ใหญ่เกินความสามารถ จะไม่ทำ แม้ว่าเสี่ยงน้อยก็ตาม

“ไม่ว่าลงทุนไร ไม่มีอะไรที่ไม่เสี่ยง นักธุรกิจต้องเสี่ยง ระหว่างที่เสี่ยงถ้าเป้าหมายเราชัด เราไปเจอภูเขา เหว ก็คิดหาทางหลีกเลี่ยง แก้ไขปัญหา ถ้าใครบอกว่าจะทำธุรกิจโดยไม่มีวันเสี่ยงก็อย่าทำ ต้องเสี่ยง แต่อย่างซี.พี.เวลาทำใหญ่ เสี่ยงแล้วมันอันตราย ความเสี่ยงนี่เราหนีไม่พ้นหรอกครับ แต่ก็ต้องคิดว่าถ้าเสี่ยง 30% ผมจะเสี่ยง ไม่มีอะไรเต็มร้อยหรอก  ถ้า 30:70 ผมเสี่ยง แต่ถ้าโครงการใหญ่มากขนาดที่มีโอกาสทำให้ซี.พี.ล้มละลาย แม้ว่าเสี่ยงแค่ 10 ผมก็ไม่ทำ เราจะไปหาเรื่องทำไม เวลาเสี่ยงต้องเสี่ยงแล้วเราไม่ล้มละลาย อย่าเล่นอะไรที่เกิน เพราะถ้าเสี่ยงแล้วมันมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ ถ้ายิ่งทำใหญ่ยิ่งเสี่ยงสูง ถ้าทำใหญ่เกินความสามารถจะล้มละลายได้ อย่าเข้าใจผิดว่า บริษัทใหญ่ไม่ล้มละลายนะ ฉะนั้นนโยบายของเครือซี.พี.คือเสี่ยงได้ แต่ต้องไม่ให้ล้มละลาย อะไรเสี่ยงเกินตัวเราจะไม่ทำ” นายธนินท์ เจียรวนนท์กล่าว

ด้าน นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ที่เข้าฟังเอ็กซ์คลูซีฟทอล์กครั้งนี้แสดงความเห็นหลังจบงานว่า การมาฟังเจ้าสัวธนินท์พูดในวันนี้ได้ประโยชน์ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้เยอะมาก

“ท่านเฉียบคมและไหวพริบดีมาก ท่านพูดอะไรยาก ๆ ให้ฟังง่าย ท่านมีอารมณ์ขันด้วย สิ่งที่ท่านพูดบนเวที ผมฟังท่านด้วยความตั้งใจ ทุกอย่างที่ท่านพูดสามารถนำไปปรับใช้ในการทำงาน ทั้งเรื่องความรอบคอบ เรื่องความคิดต่าง ๆ ได้ประโยชน์เยอะมาก”