“ประยุทธ์” สรุปเหตุกราดยิงโคราช เสียชีวิต 27 สั่งวิเคราะห์พฤติกรรมคนร้าย

ขอบคุณภาพ : สวพ. FM91

วันที่ 9 ก.พ. 63 ที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงในห้างสรรพสินค้า Terminal 21 ว่า ตนทราบสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.มีการรายงานโดยตลอด และได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ใช้กำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลควบคุมสถานการณ์ ดูแลความปลอดภัย ยังไม่สามารถปฏิบัติการในทันทีได้ กระทั่งจัดกำลังต่างๆ เรียบร้อย และได้สั่งให้ผู้บังคับบัญชา ผบ.ตร. ผบ.ทบ. ผู้ว่าราชการจังหวัด รองนายกฯ ซึ่งตนมีความกังวลเกี่ยวกับยุทธการ จากเบาไปหาหนัก โดยมาตรการที่เหมาะสม ปัญหาคือมีประชาชนอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก ถ้าใช้อาวุธอย่างไม่ระวังไม่ได้

@ ยันปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ

การทำงานของเราในช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่ปฏิบัติงานง่ายเพราะพื้นที่มี 6 ชั้น สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือคนออกมาให้ได้ก่อน ท้ายที่สุดไปจบที่ชั้น LG ซึ่งในอาคารมีซอกมุมจำนวนมาก การเคลื่อนที่เข้าหาใช้อาวุธใส่กันอีกฝ่ายหนึ่งใช้เต็ม และเราไม่รู้ว่ามีคนหลบอยู่ตรงไหนบ้าง ตนได้มีการติดต่อกันทั้งคืนกับบรรดารัฐมนตรีช่วย รองนายกฯ ผบ.ทบ. ผบ.ตร. ทีมงานมากันหมด นั่นคือการทำงานที่เรียกว่าบูรณาการกัน ขั้นตอนต่างๆ ใช้กฎหมายปกติ แล้วระมัดระวังประชาชนเป็นที่สุดเป็นคอนเซปต์ที่สั่งการในขั้นแรก การใช้กำลังใดๆ ก็ตามเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเขาเป็นข้าราชการระดับสูงผ่านร้อนผ่านหนาวมากพอสมควร แต่สถานการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย อยากให้เป็นโอกาสเดียวและโอกาสสุดท้ายไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก

@ สั่งวิเคราะห์พฤติกรรมคนร้าย

“ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น อาจด้วยสุขภาพจิตในเวลานั้นของผู้ก่อเหตุ คงไม่ใช่เกลียดชังใครทั้งหมด ให้กรมสุขภาพจิตเข้ามาดูแลเอาใจใส่ส่วนของครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บให้เขามีขวัญกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ต่อไป และให้วิเคราะห์พฤติกรรมว่าทำไมทำรุนแรงอย่างนี้ รัฐบาลต้องแก้ปัญหา ผมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องความเป็นความตายของมนุษย์ ของคนไทย ของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าใครเสียชีวิตผมเสียใจทุกคน เพราะผมต้องดูแลคนทั้งประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

@ ชมตำรวจปกป้องประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขั้นแรกคือห่วงประชาชนข้างนอก ข้างใน และที่หลบอยู่ในห้องว่าจะโดนกระสุนจากการปฏิบัติการจากเจ้าหน้าที่หรือไม่ ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่มี เพราะสะเปะสะปะไม่ได้ การทำงานนั้นต้องแบ่งสถานการณ์หน่วยงานในพื้นที่ต้องรับผิดชอบก่อน เมื่อเขาร้องขอทหารมาช่วย แม้ว่าผู้ร้ายเป็นทหารหรือตำรวจ ก็ต้องมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เพื่อดูความปลอดภัยโดยรอบ เมื่อเราส่งมืออาชีพมาแล้วจึงมีกำลังที่มีคุณสมบัติเฉพาะลงมาทำงาน เจ้าหน้าที่ทำงานเป็นขั้นเป็นตอนซึ่งใช้เวลามากพอสมควรเพราะผู้ก่อเหตุเคลื่อนไปเคลื่อนมา และมีอาวุธที่มีความร้ายแรง สิ่งที่น่าชื่นชมเขาซึ่งบาดเจ็บศูนย์เสียจำนวนมาก ถ้าทำรุนแรงคงไม่เจ็บขนาดนี้ แต่ประชาชนจะได้รับผลกระทบหรือเปล่าคือสิ่งที่เขาคิด

@ ขอบคุณแพทย์ พยาบาล

“ขอบคุณแพทย์พยาบาล บุคลากรสาธารณสุขทั้งหมด ได้รับรายงานเรื่องการเตรียมการเลือดมีเพียงพอ 1700 ถุง ใช้ 70-80 ถุง ยังเพียงพอ ขอขอบคุณที่ช่วยกันบริจาคโลหิต ทุกคนต้องมีบทเรียนหมดไม่ว่าทหาร ตำรวจ ผม หรือใคร แม้จะผ่านสถานการณ์แบบนี้มาหลายครั้ง แต่ไม่รุนแรงเท่านี้ ดังนั้น ต้องหามาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายได้โดยเร็ว รัฐบาลจะดูแลทุกคนในการรักษาพยาบาลไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จากนั้นดูแลเรื่องเงินเยียวยาจะช่วยเร่งรัด โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีเจ้าหน้าที่มาสำรวจแล้ว ส่วนเรื่องพิธีศพต้องผ่านเรื่องการพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งรัฐบาลได้ดูแลอยู่เช่นกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

@ สรุปตัวเลขบาดเจ็บ-เสียชีวิต

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีรัฐมนตรีและส.ส.ในพื้นที่รับผิดชอบรวมถึงหน่วยงานราชการ จะเห็นได้ว่าการเมืองของรัฐบาลและ ส.ส.ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ฝาก ส.ส.อื่นไม่ว่าเป็นใคร เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตประมาณ 27 รวมคนร้าย บาดเจ็บ 57 กลับบ้านแล้ว 25 ราย แอดมิด 32 ราย ส่วนความชัดแย้งส่วนตัว เรื่องธุรกิจซื้อขายที่ดิน เรื่องเงินค่าตอบแทนทะเลาะกันมา 3 วัน ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้น ขณะที่ การดูแลยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ยืนยันว่าไม่มีความละหลวม