ศบค.แถลงผู้ติดเชื้อ “โควิด” รายใหม่เพิ่มแค่ 2 ราย ติดกันในครอบครัว ไม่มีผู้เสียชีวิต

ข่าวดี! ศบค.แถลงมีผู้ติดเชื้อ “โควิด” รายใหม่เพิ่มแค่ 2 ราย มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยในครอบครัว ผู้ป่วยสะสม 3,017 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม เผยมีอีก 4 จังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มในรอบ 28 วันที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 วันที่ 10 ของการเริ่มต้นผ่อนปรนมาตรการ 6 กิจการและกิจรรม ระยะที่ 1 (14 วัน) ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ภายในห้องโถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย รวมมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 3,017 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมมีผู้เสียชีวิตสะสม 56 ราย หายป่วยแล้ว 2,798 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 163 ราย

ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อใหม่ 2 ราย สาเหตุมาจาก รายที่ 1 เป็นผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน ทั้ง 2 ราย ดังนี้ กทม. 1 ราย เพศหญิง อายุ 19 ปี มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยในครอบครัว (พี่เขย พี่สาว และหลานสาว) เริ่มป่วยด้วยอาการไข้ ถ่ายเหลว ในวันที่ 5 พ.ค. และนราธิวาส 1 ราย เพศหญิง อายุ 51 ปี มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน

“ตัวเลข 2 รายวันนี้ ถือว่าต่ำมาก ๆ ต้องขอดีใจกับคนทั้งประเทศด้วยเหมือนกัน แต่ว่า ยังไม่เป็นศูนย์ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ แต่จะเป็นศูนย์ก็ต้องใช้ความร่วมมือกัน เหมือนอย่างที่เราได้รับความร่วมมือจากกลุ่มจังหวัด วันนี้ก็ต้องขอขอบคุณจังหวัดนครศรีธรรมราช พังงา และสตูล ที่อยู่ใน State Quarantine ก็ไม่มีรายงานผู้ป่วยในรอบ 28 วันที่ผ่านมา ซึ่งก็รวมถึงจังหวัดเลยที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ลงมาอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว

โฆษก ศบค.ยังกล่าวถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ของโลก ว่าพบผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 4,254,800 ราย อาการหนักกว่า 46,000 ราย หายป่วยแล้วกว่า  1,500,000 ราย และเสียชีวิตกว่า 287,000 ราย คิดเป็นร้อยละ  6.8 โดยประเทศไทยยังคงอยู่อันดับที่ 66 ของโลก

สำหรับ 10 ประเทศอันดับแรกของจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมพบว่า สหรัฐอเมริกา มีทั้งผู้ป่วยยืนยันสะสมสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 และผู้ป่วยรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงสูงเป็นอันดับที่ 1 จำนวน 18,196 ราย  ตามด้วยรัสเซีย ซึ่งทั้งสองประเทศนี้มีจำนวนป่วยรายใหม่เกินหมื่นไปแล้วทั้งสิ้น สหรัฐอเมริกายังคงมีผู้เสียชีวิตรายใหม่สูงสุด คือ 1,008 ราย รองลงมาบราซิล อยู่ที่ 530  ราย

ส่วนสถานการณ์ตัวเลขผู้ป่วยยืนสะสมประเทศอาเซียนและเอเชียพบว่า อินเดียยังเป็นอันดับที่ 1  ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 70,000 กว่าราย และเสียชีวิตไป 2,294 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ 3,607 ราย ตามด้วยปากีสถาน สิงคโปร์ รวมถึงญี่ปุ่น บังคลาเทศ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ โดยทั้ง 8 ประเทศดังกล่าว มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมเกินกว่าหลักหมื่นแล้วทั้งสิ้น ส่วนมาเลเซีย ตัวเลขผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 6,700 ราย และไทยอยู่ในอันดับที่ 10  ตัวเลขผู้ป่วยยืนยันสะสม3,017 ราย ตามลำดับ

สำหรับประเด็นข่าวที่น่าสนใจในต่างประเทศ พบว่า มาเลเซียได้มีการประกาศขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ออกไปอีกจนถึง 9 มิถุนายน 2563 ซึ่งเป็นการขยายเวลาระยะเวลามาตรฐานล็อกดาวน์เป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่เริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 โดยพิจารณาต่อเวลามาตรการดังกล่าวทุก 14 วัน อย่างไรก็ตามรัฐบาลมาเลเซียได้ผ่อนคลายมาตรการตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2563 โดยอนุญาตให้สถานประกอบการกลับมาดำเนินการภายใต้เงื่อนไขการรักษาระยะห่างกันสังคม เว้นระยะห่างไม่ต่ำกว่า 1 เมตร สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามมาตรการเช่นเดียวกันกับประเทศไทยเลย

ขณะที่เกาหลีใต้ อัตราการระบาดรอบ 2 สูงถึง 94 ราย ข้อมูลรายงานของวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 จากผับที่อิแทวอน จากรายงานของหัวหน้าศูนย์ควบคุมป้องกันโรค เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาระบุว่า ผู้ป่วย 24 ราย จาก  34 รายที่เพิ่มขึ้นในวันที่ 10 พฤษภาคม 2563 เป็นยอดผู้ป่วยที่พบใหม่ และได้รับการยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับคลับที่อิแทวอน ในจำนวน 24 ราย มี 18 ราย ที่ไปเที่ยวคลับ และอีก 6 คนเป็นผู้ที่ติดต่อกับผู้ที่เที่ยวคลับ นอกจากนั้นยังมีผู้ป่วยที่ยืนยันแล้วเพิ่มขึ้นมาอีก 11 ราย โดยทั้งหมดขณะนี้รวม 94 ราย   โฆษก ศบค. ย้ำการนำเสนอข้อมูล เพื่อให้ประชาชนทราบ การเลือกการเปิดกิจการ กิจกรรมทั้งหลาย กับการเลือกเรื่องของการติดเชื้อก็ต้องสมดุลกันทั้ง 2 อย่าง และต้องไม่มีการการ์ดตกด้วย

Live แถลงศูนย์ข้อมูล COVID-19 12 พ.ค.63

🛑Live แถลงศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.)( 12 พ.ค. 63)💥Update สถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน🔺เวลา 11:30 – 12:30 น. 👉🏻กดช่อง 2 NBT2HD👉🏻Facebook : Live NBT2HD #NBT2HD#MCOTHD#ศูนยข้อมูลCOVID19#กรมประชาสัมพันธ์

โพสต์โดย Live NBT2HD เมื่อ วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2020