“คลายล็อกดาวน์ เฟส 6” เปิดเงื่อนไขต่างชาติ 4 กลุ่มเข้าประเทศ

ภาพ: Lillian SUWANRUMPHA / AFP

เปิดเงื่อนไข “คลายล็อกดาวน์ เฟส 6” ตามรายละเอียดที่ผ่านความเห็นชอบของ ศบค. อนุญาตให้ชาวต่างชาติ 4 กลุ่มเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยมีมาตรการรัดกุม-กักตัว 14 วัน

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวถึง มาตรการ “คลายล็อก เฟส 6” โดยเฉพาะในส่วนของการอนุญาตการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยมีมาตรการควบคุมติดตามอย่างรัดกุม สำหรับชาวต่างชาติ 4 กลุ่ม ได้แก่

1. กลุ่มผู้จัดแสดงสินค้า

กลุ่มชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาจัดแสดงสินค้าในประเทศไทย โดยเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้มีจำนวนมาก และเดินทางเข้ามาในวันและเวลาที่กำหนด โดยมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้

  • ตรวจหาเชื้อ โควิด-19 ไม่เกิน 3 วัน ก่อนเดินทาง
  • ทำประกันสุขภาพที่ครอบคลุม โรคโควิด-19 ตามข้อกำหนดของรัฐบาล วงเงิน 1 แสนเหรียญสหรัฐ
  • ลงทะเบียนและใช้งาน แอปฯ “ไทยชนะ” และ “หมอชนะ”
  • ข้อมูลที่ต้องแจ้งกับผู้จัดงานก่อนเดินทาง
    • โปรแกรมการเดินทาง และกำหนดการที่อยู่ในประเทศไทย
    • ผลการตรวจว่าไม่พบเชื้อ
    • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
    • ลงนามในหนังสือยืนยันการปฏิบัติตามระเบียบที่รัฐบาลและผู้จัดงานกำหนด
    • เลือกแพ็คเกจดูแลระหว่างอยู่ในประเทศไทย ซึ่งบริหารจัดการโดย DMC ที่ได้รับการรับรอง
    • ระบุโรงแรมที่พัก ตามที่ผู้จัดกำหนดให้เท่านั้น โดยจะต้องได้รับการรับรองโดย ศบค.

ทั้งนี้ เมื่อเข้าร่วมงาน กำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้จัดงาน ดังนี้:

  • จัดฉากกั้นบนโต๊ะเจรจาภายในคูหา และ ระหว่างโต๊ะเจรจาในพื้นที่
  • จัดให้มีการเจรจาธุรกิจผ่านทางช่องทางออนไลน์ ร่วมกับการเจรจาทางกายภาพ (Hybrid Discussion)
  • จัดให้พื้นที่การเจรจาสำหรับชาวต่างชาติ (ผู้แสดงงาน) แยกออกจากพื้นที่เจรจาของผู้แสดงงานชาวไทย

2. คณะถ่ายทำภาพยนตร์

กลุ่มชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ โดยมีกำหนดตารางวันและเวลา สามารถควบคุมได้ โดยมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้

  • ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย ต้องมีใบรับรองแพทย์ และเอกสารตามที่ ศบค. กำหนด
  • เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ต้องเข้ากักกันตัวในโรงแรม Alternative State Quarantine 14 วัน และตรวจหาเชื้อตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข
  • มีเจ้าหน้าที่ Liaison Officer ที่ผ่านการอบรมจากกระทรวงสาธารณสุขติดตามตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ
  • ทีมงานทุกคน ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ต้องมีประกันคุ้มครองค่ารักษาโรคโควิด-19
  • แจ้งการใช้พื้นที่ถ่ายทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัดรับทราบล่วงหน้า เพื่อสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่
  • ทีมงานทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทย

3. กลุ่มแรงงานต่างด้าว

กลุ่มแรงงานต่างชาติ 3 สัญชาติ ตามข้อกำหนด MOU เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะธุรกิจก่อสร้างและผลิตอาหาร ที่ประสบปัญหาขาดแรงงาน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

1. แรงงานต่างด้าวที่มีใบอนุญาตทำงานและมีวีซ่าทำงานอยู่ ซึ่งได้ขอวีซ่ารักษาสิทธิใบอนุญาตทำงาน (Re-Entry Visa) เพื่อเดินทางกลับประเทศแล้วยังไม่ได้กลับเข้ามา ประมาณ 69,235 คน

เมื่อด่านตรวจคนเข้าเมืองตรวจเอกสารการอนุญาตเข้าประเทศและตรวจลงตราวีซ่าแล้ว แรงงานต่างด้าวต้องเข้ารับตรวจการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ทันที ณ ด่านควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข และต้องเข้ารับการกักตัว 14 วันในสถานกักกันของรัฐในระดับจังหวัด (ALQ)

2. แรงงานต่างด้าวที่ยังไม่มีใบอนุญาตทำงานและวีซ่า ที่นายจ้างได้ยื่นหนังสือแสดงความต้องการ (Demand Letter) ไปที่ประเทศต้นทางแล้ว และนายจ้างยังต้องการนำเข้ามา แต่ไม่สามารถดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้ ประมาณ 42,168 คน

เมื่อด่านตรวจคนเข้าเมืองตรวจเอกสารการอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศแล้ว แรงงานต่างด้าวต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 และตรวจสุขภาพ 6 โรค ซื้อประกันสุขภาพ 2 ปี (กรณีกิจการที่ไม่เข้าประกันสังคม) หรือประกันสุขภาพ 3 เดือน (กรณีกิจการต้องเข้าประกันสังคม) และเข้ารับการกักตัว 14 วัน ในสถานกักกันของรัฐในระดับจังหวัด (ALQ)

ทั้งนี้ แรงงานต่างด้าวทั้งสองกลุ่มต้องได้รับหนังสือรับรองว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ และมีใบรับรองแพทย์ (Fit to Travel) ส่วนการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร

ขณะที่อยู่ในสถานที่กักกันฯ จะมีการอบรมให้ความรู้ด้านกฎ ระเบียบ และการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยแก่คนต่างด้าวก่อนเข้าทำงาน ตามขั้นตอนการนำเข้าฯ

เมื่อครบกำหนด 14 วัน จะได้รับการตรวจลงตราวีซ่าจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และได้รับใบอนุญาตทำงานจากศูนย์แรกรับและสิ้นสุดการจ้าง เมื่อแรงงานต่างด้าวทั้งสองกลุ่มเข้ารับกักตัวครบตามกำหนดแล้วไม่พบเชื้อ นายจ้างสามารถรับแรงงานต่างด้าวไปทำงานได้ พร้อมรายงานให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดในพื้นที่ทราบ

โฆษก ศบค. ได้ระบุด้วยว่า เนื่องจากภาคธุรกิจไม่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายสำหรับ state quarantine ซึ่งมีราคาประมาณ 2 หมื่นบาทต่อแรงงาน 1 คนได้ จึงได้เสนอแนวทาง “organizational quarantine” ซึ่งเป็นมาตรการกักตัวซึ่งองค์กรหรือบริษัทจัดพื้นที่ขึ้นมา โดยได้รับการตรวจมาตรฐานรับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกระทรวงแรงงานจะชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง

4. กลุ่มผู้รับบริการทางการแพทย์

กลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาเพื่อรับการรักษาพยาบาล เช่น บริการเสริมความงาม ปรึกษาเรื่องการมีบุตร เป็นต้น

กำหนดให้กักตัวในโรงพยาบาล 14 วัน โดย ศบค. ได้ยกตัวอย่างแพ็คเกจทัวร์ สำหรับกลุ่มผู้ที่เข้ามารักษาได้ท่องเที่ยวต่อหลังจากกักตัวในโรงพยาบาลครบจำนวน 14 วันแล้ว (แม้จะใช้เวลารักษาน้อยกว่านั้น ก็จะต้องกักตัวในโรงพยาบาลให้ครบ 14 วัน)

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ถือบัตร Thailand Elite Card ซึ่งมีจำนวน 1 หมื่นราย ซึ่งอาจเป็นทั้งนักธุรกิจ ผู้เข้ามารับการรักษาพยาบาล หรือ เป็นคู่สมรสของผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยมีผู้ถือบัตรที่อยู่นอกประเทศราว 7.2 พันคน และจะนำร่องอนุญาตให้กลับมาเที่ยวในประเทศไทยจำนวน 200 คน โดยผู้ถือบัตรจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน