ครบ 1 ปี กราดยิงโคราช ปฏิรูปกองทัพถึงไหนแล้ว? ประชาชนทวงสัญญา

ครบ 1 ปีกราดยิงโคราช ประชาชนทวงสัญญากองทัพ

เหตุสะเทือนขวัญคนไทยทั้งประเทศ “กราดยิงโคราช” เวียนมาครบ 1 ปีแล้ว ประชาชนพากันทวงคำสัญญาเรื่อง “ปฏิรูปกองทัพ” ขณะที่ ผบ.ทบ.ยัน เยียวยาผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต แล้ว 

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ข่าวสด รายงานกรณีครบรอบ 1 ปี เหตุกราดยิงสะเทือนขวัญที่ห้างเทอร์มินัล 21 โคราช ซึ่งมีชนวนเริ่มต้นมาจาก จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี สังกัด กรมสรรพาวุธกระสุนที่ 22 บชร.2 ก่อเหตุ ใช้อาวุธยิงผู้บังคับบัญชาและแม่ยายเสียชีวิตคาบ้านพัก จากความขัดแย้งเรื่องบ้านพักทหาร

จากนั้น จ.ส.อ.จักรพันธ์ บุกเข้าไปที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ใช้อาวุธยิงทหารเวรเพื่อชิงอาวุธ พร้อมกับขับรถฮัมวี่ของทหารเพื่อหลบหนี โดยระหว่างทางได้ยิงตำรวจและชาวบ้านที่สัญจรโดยรอบด้วย ก่อนขับรถมุ่งไปยังห้างเทอร์มินัล 21 โคราช ก่อเหตุกราดยิง ทำให้มีประชาชนและพนักงานห้างฯ ติดอยู่ในอาคาร เหตุการณ์ดำเนินไปหลายชั่วโมง มีเสียงปืนดัตลอดคืน กระทั่งช่วง 09.00 น. จ.ส.อ.จักรพันธ์ จึงถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมพื้นที่และช่วยเหลือตัวประกันที่เหลือออกมา ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต (รวมผู้ก่อเหตุ) จำนวน 30 ราย บาดเจ็บ 58 ราย

ต่อมา พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์พร้อมน้ำตาว่า ‘วินาทีลั่นไกสังหาร เขาเป็นอาชญากรไม่ใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว’ ทั้งยังให้สัญญากับสาธารณะว่า จะปฏิรูปกองทัพใน 100 วัน ต่อมาในช่วงเดือนสิงหาคม 63 พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ กล่าวอีกครั้งว่า การปฏิรูปกองทัพไม่ใช่เรื่องที่จะเปลี่ยนได้โดยง่าย จึงขอขีดเส้นตายไว้ก่อนที่ตนจะเกษียณแทน ขณะที่ปัจจุบัน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ได้เกษียณอายุไปแล้ว แต่กองทัพก็ยังไม่มีการปฏิรูปที่เห็นได้ชัดเจนนัก

บิ๊กแดงหลั่งน้ำตา
ภาพจาก ข่าวสด

ขณะที่วันนี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปี ประชาชนจำนวนมากได้ออกมาทวงสัญญาของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่จะปฏิรูปกองทัพ โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตและการกดขี่ชั้นผู้น้อย โดยในทวิตเตอร์ มีแฮชแท็ก #กราดยิงโคราช ขึ้นอันดับ 1 ของประเทศไทย มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น และบางคนได้เล่าถึงประสบการณ์ในวันดังกล่าว โดยเหยื่อจากเหตุการณ์บางรายเผยว่า แทบไม่ได้รับการเยียวยา ประชาชนจำนวนมากเกิดความข้องใจ และเรียกร้องให้ปฏิรูปกองทัพตามที่เคยให้สัญญา

ผบ.ทบ. ยัน 1 ปีจ่าคลั่ง สั่งกก.สอบลงโทษทหารแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณี ครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมา ว่า เหตุการณ์นี้กองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตั้งแต่สมัย พล.อ.อภิรัชต์ ดำรงแหน่ง ผบ.ทบ. เพื่อหาข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งมีทั้งผู้ที่บกพร่องและผู้ที่กระทำความผิด ซึ่งในส่วนผู้ที่กระทำความผิดทั้งผู้บังคับบัญชาการ ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว ถือเป็นการชดใช้ไปแล้วส่วนหนึ่ง ในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบทางรัฐบาลและกองทัพบกได้เยียวยา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเราไม่สามารถทำอะไรได้นอกเหนือไปกว่านี้

ทั้งในส่วนของการชดใช้ด้วยเงินตั้งแต่บาดเจ็บเล็กน้อย เริ่มต้นที่ 2 แสนบาท ไปจนถึงเสียชีวิตประมาณ 7-8 ล้านบาท โดยยึดตามหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่มีหลายภาคส่วนช่วยเหลือ นอกจากนี้กองทัพบกยังช่วยเหลือด้านการประกอบอาชีพ ด้วยการนำคนในครอบครัวมารับราชการ ในส่วนของกองทัพบกมี 30 ราย

พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้เหลือผู้บาดเจ็บ 2 ราย คนแรกที่อยู่ จ.นครราชสีมา ส่วนอีกคนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งวันเดียวกันนี้ตนจะให้เจ้ากรมกำลังพลทหารบกไปเยี่ยม ทั้งนี้ในความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ที่ไม่ตรวจตราจนทำให้เกิดปัญหานั้น เราก็ยอมรับผิด และมีทั้งหมด 13 คน ที่ถูกลงโทษโดยการประจำหรือที่เรียกในภาษาทหารว่าประจำ 0007 ไปแล้ว

พร้อมทั้งงดบำเหน็จ ส่วนเรื่องการไม่ระมัดระวังในการรักษาความปลอดภัยสถานที่ต่าง ๆ ในปีนี้ก็ได้มีการแก้ไขปรับปรุงเก็บรวบรวมข้อมูลช่วงปีที่ผ่านมาและจะปรับปรุงต่อเนื่องไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ในขณะที่คลังอาวุธหนักนั้นตอนนี้ทุกหน่วยก็ดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว

เปรียบอาวุธเหมือน “ทิชชู่”

ระหว่างการสัมภาษณ์ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านให้ชะลอ 3 โปรเจคส์ในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในปี 2565 วงเงินรวมกว่า 6,152 ล้านบาท โดยเสนอให้ตัดงบประมาณของกองทัพไปก่อน ว่า ไม่ขอชี้แจง เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาลและรัฐสภา ซึ่งได้ไปชี้แจงในชั้นกรรมาธิการของสภาฯ แล้ว ปีนี้ลดการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ แต่จะเสนอเพียงโครงการซ่อมบำรุงเป็นส่วนใหญ่ ด้วยการพึ่งพาตนเองทำให้สามารถใช้งานได้อีกระยะหนึ่ง

พร้อมทั้ง ยืนยันถึงการการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ “เหมือนของใช้ในบ้าน เหมือนทิชชู่ในห้องน้ำ แล้วบอกว่าทิชชู่ ห้ามซื้อนะปีนี้  แล้วถ้าเข้าห้องน้ำคุณจะใช้อะไรถามสิ”