กทม.ติดเชื้อเป็นศูนย์ เคส “จุฬาฯ” ยอดพุ่ง 22 ราย ชี้ที่มา 2 วงรอบใหญ่

กทม.ไร้คนติดเชื้อโควิดใหม่วันนี้ ยอดสะสมอยู่ที่ 924 ราย  ศบค.แจงเคสจุฬาติดเชื้อแล้ว 22 คน ชี้ที่มา 2 วงรอบใหญ่จากพนักงานส่งเอกสาร แม่บ้าน ญาติ เพราะอาศัยอยู่ที่เดียวกัน และกลุ่มรปภ. มีการสแกนนิ้ว กินอาหารร่วมกัน

วันที่ 16 ก.พ. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยวันนี้ (16 ก.พ. 2564) ไม่มีการพบมีผู้ติดเชื้อใหม่

ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม (18 ธ.ค. 2563 – 16 ก.พ.2564) ยังคงเดิมที่ 924 ราย เป็นอันดับ 2 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด รองจากจ.สมุทรสาคร

เคสจุฬาฯติดเชื้อรวม 22 ราย

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับเคสการแพร่ระบาดที่อาคารจุฬานิวาสน์ ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบผู้ติดเชื้อแล้ว 22 คน ส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงาน 40-59 ปี ส่วนมากมีอาการไอ มีเสมหะ เหนื่อยหอบและปวดกล้ามเนื้อ

ทางกทม.และกรมควบคุมโรค ช่วยกันวิเคราะห์ถึงที่มาของทั้ง 22 รายที่ติดเชื้อพบว่า มี 2 วงรอบที่เกี่ยวข้องกัน วงแรกติดจากพนักงานส่งเอกสาร อายุ 56 ปีแพร่ไปติดกับญาติ แม่บ้าน และอื่นๆรวม 7 คน เพราะอยู่อาศัยบริเวณเดียวกันคือ ชั้น 12 ของอาคารร่วมกัน และติดเพิ่มอีก 3 คนด้วย

วงต่อมา พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) 7 ราย พบการติดเชื้อในลักษณะที่ทำงานด้วยกัน สแกนนิ้ว รับประทานอาหารร่วมกัน เป็นต้น แล้วจากนั้นก็นำเชื้อไปติดต่อกับญาติพี่น้องและเพื่อนอีกอย่างน้อย 6 คน

สรุปแล้วทั้ง 2 วงรอบของการติดเชื้อมีสาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อ 4 ประเด็น 1.พักอาศัยร่วมกัน 2. ทำงานร่วมกัน 3. รับประทานอาหาร หรือมีกิจกรรมอย่างอื่น เช่น การระดมพลจัดแถวของรปภ.ร่วมกัน 4. พบมีเชื้อบนจุดแสกนลายนิ้วมือ

คลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อดควิดจุฬาฯ

คลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อโควิดจุฬานิวาสน์