ทำความเข้าใจ เหตุใด “ครุฑ” จึงถูกมองเป็น “ของสูง” ในสังคมไทย หลังมีดราม่าแบรนด์รองเท้านำรูป “ครุฑ” ไปไว้บนรองเท้า
วันที่ 15 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีแบรนด์เสื้อผ้า DNAProud เปิดตัวรองเท้าสนีกเกอร์คอลเลกชั่น “ประเทศไทย” ซึ่งมีสัญลักษณ์ตรา “พญาครุฑ” ติดอยู่ด้วย ทำให้เกิดดราม่าบนโลกโซเชียล หลังมีผู้มองว่าไม่เหมาะสม เนื่องจาก “ครุฑ” เป็นของสูงและเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย ขณะที่อีกกลุ่มมองว่าสวยงาม สื่อความเป็นไทยออกมาได้เท่ หลากหลาย ไม่ตายตัว
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ “ครุฑ” เพื่อให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในยามที่โซเชียลกำลังเสียงแตกเกี่ยวกับประเด็นนี้
ครุฑกับสถาบันพระมหากษัตริย์
ตามข้อมูลของ “ศิลปวัฒนธรรม” ที่เผยแพร่เมื่อ 17 กันยายน 2561 ระบุว่า ในศิลปกรรมไทยนั้นมีรูปครุฑปรากฏในภาพเขียนโบราณ ลายหน้าบันพระอุโบสถ ลายรดน้ำ ในเรือพระราชพิธี ครุฑจึงผูกพันกับคนไทยมายาวนาน เราจะเห็นรูปครุฑเป็นพาหนะให้พระนารายณ์ ครุฑยุดนาค และครุฑได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยมาแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน โดยครุฑได้เป็นตราพระราชลัญจกร เรียกว่า ครุฑพ่าห์
พระราชลัญจกรครุฑพ่าห์ เป็นพระราชลัญจกรสำหรับกรุงศรีอยุธยาประจำชาดและประจำครั่ง ผนึกพระราชสาส์นและหนังสือสัญญานานาประเทศเป็นพระราชลัญจกรประจำแผ่นดิน หรือตราแผ่นดิน จนถึงสมัยรัชกาลปัจจุบัน
และใช้เป็น “ครุฑตราตั้ง” เป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ ที่พระราชทานให้บริษัทเอกชนหรือกิจการงานหลวงหรือส่วนราชการ ซึ่งบริษัทเอกชนบางบริษัทอาจได้รับพระบรมราชานุญาตให้ใช้เป็นเครื่องหมายตราตั้ง เพื่อเป็นเกียรติยศแก่บริษัทห้างร้าน ซึ่งใช้ตัวหนังสือ โดยได้รับพระบรมราชานุญาต ประกอบเบื้องล่างตัวตราครุฑด้วย
ครุฑที่ปรากฏเป็นตราตั้งแสดงอยู่หน้าบริษัทห้างร้านหรือหน่วยราชการในประเทศไทยนั้น ปั้นโดยช่างปั้นครุฑที่มีฝีมือดีที่สุดของประเทศไทย ชื่อ สัญญา วงศ์อร่าม ศิลปินไทยคนแรกที่ได้รับทุนไปเรียนต่อที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และกลับมาสอนหนังสือที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พญาครุฑเสริมโชคลาภ บารมี ป้องกันภัย
ในวงการพระเครื่องและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เชื่อว่า พญาครุฑ เป็นสัตว์กายสิทธิ์ ที่ไม่มีผู้ใดสามารถฆ่าให้ตายได้ มีอายุยืนเสมือนว่าเป็นอมตะ จนเกิดการสร้างเครื่องรางต่าง ๆ ขึ้น
เว็บไซต์พรพระแสง ระบุว่า อำนาจพญาครุฑสามารถจำแนกได้ถึง 8 ประการ ดังนี้คือ
- เป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอำนาจอันเฉียบขาด
- สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสย์ทั้งปวง ภูติผีปิศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้
- เป็นสื่อนำความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน
- ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน
- เป็นเมตตามหานิยม
- นำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้
- ทำมาค้าขายดีเป็นสื่อนำโชคลาภนานาประการ
- สัตว์ร้าย เขี้ยวงาสารพัด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อสรพิษไม่กล้ากล้ำกรายเข้าใกล้ เพราะเกรงตบะบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด
บิ๊กตู่-ธรรมนัส สวมแหวนพญาครุฑ
เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 นักข่าวตาไวที่ทำเนียบรัฐบาลสังเกตเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สวมแหวน “พญาครุฑ” ที่นิ้วนางด้านขวา ปฏิบัติภารกิจทั้งในและนอกทำเนียบรัฐบาล โดยได้ถอดแหวนวงอื่น ๆ ออกทั้งหมด
คาดว่าช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ นำแหวนพญาครุฑมาสวมใส่ เนื่องจากมีปัญหาหลายด้าน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การแพร่ระบาดเขื้อไวรัสโคโรนา รวมทั้งปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงต้องการให้ปัญหาทั้งหมดคลี่คลาย
ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ เคยสวมแหวนพญาครุฑของพระครูวิศิษฏ์วิทยาคม หรือ พระอาจารย์วราห์ ปุญญวโร เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทอง เจ้าตำรับพญาครุฑมหาอำนาจบ้างในบางโอกาส โดยเฉพาะในช่วงรัฐประหาร
เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 “วาสนา นาน่วม” ผู้สื่อข่าวสายทหารโพสต์เฟซบุ๊กว่า “ธรรมนัส พรหมเผ่า” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นอีกคนที่สวมแหวนครุฑที่นิ้วในช่วงก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่ง “วาสนา” ระบุว่า หลังสวมใส่แหวนครุฑ นายธรรมนัสได้คะแนนโหวตสูง 275 คะแนน มากกว่านายกฯ และเท่ากับ “บิ๊กป้อม” เลย
นักข่าวคนดังเผยอีกว่า ช่วงก่อนรัฐประหาร พี่น้อง 3 ป. ได้แก่ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, บิ๊กป้อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่างสวมแหวนครุฑแหวนพญานาคเพื่อเสริมเคล็ดให้รัฐประหารสำเร็จ
ทั้งหมดนี้น่าจะพออธิบายได้ว่า เหตุใดคนจำนวนมากในประเทศไทยจึงเชื่อว่า “ครุฑ” เป็นของสูง