ศบค.เผยพบ 5 เขตใหม่ในกทม. พบติดเชื้อโควิดอีก เป็นแคมป์ก่อสร้างทั้งหมด และเป็นของบ.อิตาเลียนไทยฯมากสุด 3 แห่ง จับตา “ตลาดบางกะปิ” ตรวจไป845 คน ผลพบเชื้อ 137 คน คิดเป็น 16.21%
วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 นายแพทย์ทวีสิน วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 3,052 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 97,255 ราย หายป่วยแล้ว 54,978 ราย เสียชีวิตสะสม 665 ราย
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
รวมผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 126,118 ราย หายป่วยแล้ว 82,404 ราย เสียชีวิตสะสม 759 ราย
และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 21 พฤษภาคม 2564 มีผู้รับวัคซีนสะสมทั้งหมด จำนวน 2,811,549 โดส
สำหรับพื้นที่กทม.วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,191 ราย เป็นคนไทย 702 คน ต่างด้าว 189 คน และจากการสอบสวนโรคผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 18,811 คน พบเชื้อ 1,708 คน คิดป็นอัตราการติดเชิ้อถึง 9.08%
นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวว่า วันนี้ในการตรวจหาเชื้อมีการเพ่งเป้าไปที่ “ตลาดบางกะปิ” มีการตรวจไปทั้งหมด 845 คน ผลพบเชื้อ 137 คน คิดเป็น 16.21% นอกจากนี้มีแฟลตศรีวรจักร-คลองถม 911 คน พบเชื้อ 47 คน คิดเป็น 5.15% ตลาดกลางดินแดง ตรวจ 745 คน พบเชื้อ 36 คน คิดเป็น 4.83%
ข้อมูลชุดนี้ทำให้ภาพรวมการตรวจเชิงรุก 6 แห่ง พบเชื้อ 268 คน คิดเป็น 5.75%(ตามตาราง)
“มีการพูดคุยกันว่า ตลาดบางกะปิ แถวรามคำแหง จะต้องมีการเข้าไปควบคุมโรคโดยเร่งด่วน และขอให้พี่น้องประชาชนที่อยู่รอบข้างตลาดบางกะปิทั้งหลายได้ให้ความร่วมมือกับทีมงานและดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือ ใส่หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยตลอดเวลา” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว และว่า
ส่วนคลัสเตอร์ที่มีการเฝ้าระวัง 28 แห่ง ที่เฝ้าระวังสูงสุดมี 20 คลัสเตอร์ กลุ่มเฝ้าระวังมี 2 คลัสเตอร์ และที่พบใหม่มี 5 เขต ได้แก่พื้นที่เขตคลองเตย เป็นแคมป์ก่อสร้างบริษัทอิตาเลี่ยนไทย 2 แห่ง เขตห้วยขวาง แคมป์ก่อสร้าง บ.อิตาเลียนไทย เขตบางคอแหลม แคมป์ทวีพร เขตปทุมวัน แคมป์โปโล และเขตบางรัก แคมป์ก่อสร้างของบริษัท ฤทธา
สำหรับเรื่องแรงงานต่าวด้าวที่ผิดกฎหมาย นโยบายของนายกฯ ทุกคนต้องได้รับการตรวจและดูแล ขอให้ทั้ง 3 ส่วนได้รับทราบ 1.ประชาชนทั้งคนไทยและต่างด้าว ถ้าสงสัยว่าตัวเองน่าจะติดเชื้อให้ไปแจ้ง 2.กลุ่มผู้ประกอบการ ต้องช่วยดูแล และ 3.ภาครัฐที่ดูแลด้านนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณ เพราะมีงบดูแลทางด้านนี้ ถึงแม้มีข้อยุ่งยากก็ตาม
ขณะที่ความคืบหน้าเรื่องการฉีดวัคซีน หลังมีวัคซีนเข้ามา 6 ล้านโดส แต่ฉีดจริงแค่ 2 ล้านกว่าโดส ล่าสุดมีการกระจายลงพื้นที่ไปแล้ว 3.6 ล้านโดส ฉีดไปแล้ว 2.7 ล้านโดส อยู่ระหว่างจัดส่ง 4 แสนโดส อยู่ระหว่างตรวจคุณภาพ 2 ล้านโดส
“มีคำถามมาเรื่อย ซึ่งต้องดูตัวเลขการจัดสรร ไม่ได้มีการค้างสต๊อก ทุกเรื่องเป็นการบริหารสถานการณ์ให้ดีที่สุด” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว