ศบค.สั่งปิดเพิ่ม 10 กิจการ พื้นที่ “สีแดงเข้ม” 13 จังหวัด คุมเข้มโควิด “ร้านตัดผม สวนสาธารณะ ลานกีฬา สระว่ายน้ำ สนามกีฬาทุกประเภท”
วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนเกิดข้อสงสัยเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับความชัดเจนของประเภทกิจการและกิจกรรมที่สามารถเปิดหรือปิดทำการในช่วงที่มีการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์คุมเข้มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด “สีแดงเข้ม” 13 จังหวัด
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
ในส่วนของกิจการที่ประกาศให้ปิดให้บริการแล้วรวมทั้งสิ้น 23 ประเภท โดยวันนี้ มี ศปก.ศบค.ได้พิจารณาร่วมกันแล้วมีความเห็นว่า เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์และมาตรการบังคับของข้อกำหนด ฉบับที่ 28 ที่มุ่งเน้นให้ลดการเดินทางและการออกนอกเคหสถานของประชาชน จึงมีข้อเสนอแนะให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด อาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พิจารณาสั่งปิดสถานที่/กิจการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ดังนี้
ปิดเพิ่ม 10 กิจการ
1.ให้พิจารณาปิดสถานที่หรือกิจการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติมจากที่ได้ กรุงเทพมหานคร หรือจังหวัด ได้มีประกาศ/คำสั่งปิดแล้ว ได้แก่
- สนามกีฬาทุกประเภท (ประเภทในร่ม เช่น แบดมินตัน สนามฟุตซอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล/ประเภทกลางแจ้ง เช่น สนามกอล์ฟ สนามซ้อมกอล์ฟ สนามฟุตบอล สนามเทนนิส)
- สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬา หรือกิจกรรมทางน้ำ เพื่อการสันทนาการ สระว่ายน้ำสาธารณะ หรือกิจการอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน
- ลานกีฬา
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ
- ศูนย์การเรียนรู้ หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม หรือหอศิลป์
- ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชนและบ้านหนังสือ
- พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์สถาน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ ในลักษณะเดียวกัน แหล่งประวัติศาสตร์ หรือโบราณสถาน
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน
- ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งผม ร้านทำเล็บ หรือร้านสัก
- สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ต่าง ๆ
กิจการที่เปิดได้ช่วงโควิด
2.ให้พิจารณาเปิดสถานที่หรือกิจการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ภายใต้เงื่อนไขควบคุมโรค ดังนี้
- สถานที่รับเลี้ยงเด็ก เฉพาะสถานที่รับเลี้ยงเด็กในโรงพยาบาล และที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ
- สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ เฉพาะที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ
- ตลาดนัด เฉพาะส่วนที่ขายอาหารหรือวัตถุดิบเพื่อการบริโภค
“ขอขยายความในการรายงานวันนี้ ในส่วนของกิจการที่ปิดแน่นอนแล้ว คือ 23 กิจการ ซึ่งมีการรายงานชัดเจนไปแล้ว ในส่วนของพื้นที่สีแดงเข้ม แต่คำสั่งที่จะขอขยายเพิ่มเติมในวันนี้คือการปิดอีก 10 รายการ ตามข้อกำหนดฉบับที่ 28 เพิ่มเติม โดยเฉพาะร้านเสริมสวย ร้านตัดผมที่ถามกันเข้ามามาก ทั้งในส่วนของในห้าง และนอกห้าง ตามข้อกำหนดนี้คือปิดหมด”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับประกาศปิดสถานที่เสี่ยงเพิ่มเติม แต่ละจังหวัดจะออกประกาศหรือคำสั่งออกมาอีกครั้งหนึ่ง
สั่งผู้ว่าฯ เข้มงวด “ตลาดนัด-ตลาดสด”
แพทย์หญิงอภิสมัยระบุว่า ในส่วนของตลาดสด หรือตลาดนัด ทางกระทรวงสาธารณสุข มีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง ซึ่งในที่ประชุม ศบค.ก็มีความเข้าใจบริบทของสังคม เนื่องจากตลาดสด ตลาดนัดมีความใกล้ชิดกับชุมชน หากมีการปิดกิจการทั้งหมด ก็เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตมากพอสมควร
“อย่างไรก็ตาม คงต้องฝากไปยังคณะกรรมการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการจำกัด เข้มงวดในส่วนของตลาดสด ตลาดนัด และหากมีพื้นที่ที่มีความเสี่ยงก็ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการจังหวัด หรือท่านผู้ว่าฯสามารถพิจารณาสั่งปิดเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากข้อกำหนดนี้”
- ราชกิจจาฯ : ประกาศมาตรการฉบับใหม่คุมโควิด มีผลบังคับใช้วันนี้ (20 ก.ค.)
- ราชกิจจา ประกาศล็อกดาวน์เพิ่ม 3 จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา
สำหรับ 23 กิจการ ที่มีการประกาศปิดก่อนหน้านี้ มีดังนี้