แม้ผลทดสอบ Antigen Test Kit จะพบความผิดพลาดน้อยมากเมื่อเทียบกับ RT-PCR แต่ยังพบผลตรวจ บวก-ลบ “ปลอม” ที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ
วันที่ 2 สิงหาคม 2564 การใช้ Antigen test kit (ATK) เพื่อทดสอบหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้รับการยืนยันจากสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แล้วว่า เมื่อนำผลการทดสอบด้วยวิธีดังกล่าวไปเทียบกับวิธีมาตรฐานอย่าง RT-PCR พบผลการตรวจที่ผิดพลาดเพียง 3% เท่านั้น
- เช็กที่นี่ ออมสิน-ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อปิดหนี้นอกระบบ 20,000 บาท ใครกู้ได้บ้าง!
- กรุงเทพฯ กปน.หยุดจ่ายน้ำ 21 มี.ค. 18 พื้นที่ รับมือน้ำไม่ไหล เช็กที่นี่
- เร่งสายสีแดง มธ.รังสิต-มหิดล ศาลายา คอนโดฯ-บ้านเดี่ยวจ่อเปิดตัวรับเทรนด์ปีมังกร
ขณะที่ นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก (28 ก.ค.) เตือนถึงการใช้แอนติเจน เทสต์ คิต ไว้ว่า แม้ตรวจแล้วผลจะออกมาเป็นลบ ก็อย่าเพิ่งดีใจว่าไม่มีไวรัส โดยเฉพาะหากมีอาการยิ่งต้องระวัง ส่วนหากผลเป็นบวก โอกาสที่มีไวรัสจริงจะสูงมาก แม้ว่าอาจจะได้ผลบวกปลอมอยู่บ้างก็ตามโดยต้องยืนยันซ้ำ
ล่าสุด ที่เฟซบุ๊กเพจ ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ได้เผยแพร่ข้อมูล ปัจจัยที่อาจทำให้ผลการทดสอบชุดตรวจ Antigen Test Kit ไม่ถูกต้อง ทั้งผลตรวจที่เป็น “บวก” และผลตรวจที่เป็น “ลบ” ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
ผลบวกปลอม (False Positive)
Antigen Test Kit ให้ผลเป็น “บวก” ปลอม คือ ไม่ได้ติดเชื้อ แต่ให้ผลการทดสอบเป็นบวก เกิดจากสาเหตุ ดังนี้
- การปนเปื้อนจากพื้นที่ที่ทำการทดสอบอุปกรณ์ที่ใช้
- การติดเชื้อไวรัส หรือจุลชีพอื่น ๆ
- ดำเนินการตามขั้นตอนวิธีทดสอบไม่ถูกต้อง เช่น อ่านผลเกินเวลาที่กำหนด
- สภาพสิ่งส่งตรวจไม่เหมาะสม
ผลลบปลอม (False Negative)
Antigen Test Kit ให้ผลเป็น “ลบ” ปลอม คือ ไม่ได้ติดเชื้อ แต่ให้ผลการทดสอบเป็นลบ เกิดจากสาเหตุ ดังนี้
- เพิ่งติดเชื้อในระยะแรกมีปริมาณไวรัสต่ำ
- การเก็บสิ่งส่งตรวจไม่ถูกต้อง
- ดำเนินการตามขั้นตอนวิธีทดสอบไม่ถูกต้อง เช่น ไม่ผ่านผลในช่วงเวลาที่กำหนด หรือ ปริมาณตัวอย่างที่หยดไม่เป็นไปตามที่กำหนด