รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เผยแผนเปิดประเทศ 5 จังหวัด เตรียมหารือผู้ว่าฯกรุงเทพฯ เปิดรับนักท่องเที่ยวในบางเขต วันนี้ 15.00 น.
วันที่ 15 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (14 ก.ย.) ถึงความคืบหน้าแผนการเปิดประเทศ ว่า ยืนยันว่าในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะเปิดให้มีการท่องเที่ยวใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ ตามแผนที่เคยประกาศไว้ล่วงหน้า ส่วนจังหวัดที่เหลือจะเดินตามแผนให้เปิดให้ท่องเที่ยวได้ใน 21 จังหวัด ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ดีเดย์ 1 ต.ค. เปิดอีก 5 จังหวัดแซนด์บอกซ์ รับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น
- พิพัฒน์ตอบปมอภิปรายไม่ไว้วางใจ 1 ต.ค. เปิดเที่ยวทั่วไทย
ล่าสุด นายพิพัฒน์ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง MCOT HD ถึงประเด็นนี้ โดยเริ่มที่กรุงเทพมหานคร ว่า การเปิดกรุงเทพฯ รับนักท่องเที่ยว มีแนวทางคือจะเปิดเพียงบางเขต ซึ่งอาจจะเป็นเฉพาะใจกลางเมืองเท่านั้น โดยในพื้นที่ติดกับจังหวัดข้างเคียง เช่น สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี หรือนนทบุรี อาจจะต้องเว้นเอาไว้ก่อน เพราะกรุงเทพฯ จะฉีดวัคซีนครบ 70% ในต้นเดือนหน้า ขณะที่ปริมณฑลฉีดวัคซีนยังไม่ถึง 70%
ส่วนเขตใดกรุงเทพฯ ที่พร้อมเปิดในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะมีเขตใดบ้างนั้น นายพิพัฒน์ตอบว่า วันนี้เวลา 15.00 น. จะมีการหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ ซึ่งทางผู้ว่าฯจะเป็นคนกำหนดว่าจะเปิดกี่เขต
“แต่การเปิดพื้นที่ในกรุงเทพฯ ก็อย่ากังวล เพราะเราจะให้เขาโหลดแอปเราชนะ เมื่อเดินทางข้ามเขตสัญญาณจะดังขึ้นทันทีว่านักท่องเที่ยวรายนี้ได้เดินเดินข้ามเขตไปนอกพื้นที่” นายพิพัฒน์กล่าวและว่า นักท่องเที่ยวต้องโหลดแอปทุกคน หลังจากมีการทดลองกับกลุ่มนักท่องเที่ยวในภูเก็ตแซนด์บอกซ์ จนประสบความสำเร็จ จึงนำมาใช้ในกรุงเทพฯต่อ
ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตจะเดินทางมากรุงเทพฯ ต้องกักตัวหรือไม่ นายพิพัฒน์ตอบว่า ดีที่สุดคืออยู่ภูเก็ตแล้ว 7 วัน จึงมากรุงเทพฯ ชาวกรุงเทพฯสบายใจได้เพราะนักท่องเที่ยวเหล่านี้ได้มีการตรวจ RT-PCR ไปแล้ว 2 ครั้ง คือที่สนามบิน และในวันที่ 6 กับ 7
“กลับกันหากเข้ามาในกรุงเทพฯเป็นวันแรก ถึงสนามบินก็ต้องตรวจหาเชื้อ จากนั้นเข้าห้องพักเพื่อรอผลตรวจไม่เกิน 4-6 ชั่วโมง หากไม่ติดเชื้อจึงสามารถเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ที่กำหนดได้ ไม่ต้องกักตัว”
นายพิพัฒน์ยังกล่าวถึงการเปิดจังหวัดอื่น ๆ เช่น ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะเปิดทั้งอำเภอหัวหิน เพราะขณะนี้ฉีดวัคซีนเกิน 70% แล้ว ส่วนเพชรบุรี จะเปิดเพียงชะอำเพียงอำเภอเดียว ไม่รวมอำเภออื่น ๆ เนื่องจากอำเภอเขาย้อยยังมีคลัสเตอร์ใหญ่มาก
ขณะที่ชลบุรี ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสูงอยู่ นายพิพัฒน์กล่าวว่า ต้องดูว่าเกิดจากคลัสเตอร์ใดบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการติดเชื้อในโรงงาน แต่ขณะนี้ทางกระทรวงแรงงานกำลังพยายามขอความร่วมมือการทำโรงพยาบาลสนามในโรงงาน และให้พนักงานทั้งหมดกักตัว พักอยู่ในโรงพยาบาสนาม เพราะฉะนั้น อย่างเลวร้ายที่สุดคือไปเช่าโรงแรมและให้พนักงานอยู่โดยไม่ออกไปไหน ก็จะเป็นการหยุดการแพร่กระจายโรคได้
ต่อคำถามที่ว่า การเปิดประเทศรอบนี้จะมีมาตรการเหมือนจังหวัดภูเก็ตหรือไม่ คือเมื่อยอดผู้ติดเชื้อถึงจุดที่กำหนด จะหยุดการเปิดประเทศทันที นายพิพัฒน์ระบุว่า มี อย่างในกรุงเทพฯ หากมีการติดเชื้อในพื้นที่ ถึง 200 คน ติดต่อกัน 10 วัน จะนำมาพิจารณาว่าจะทำอย่างไร และมีเงื่อนไขใดเพิ่มเติมขึ้นมา
เมื่อพิธีกรถามว่า หากรับนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วไม่ปล่อยให้เดินทางออกนอกเขต นักท่องเที่ยวจะมาหรือไม่ นายพิพัฒน์ตอบว่า กรุงเทพฯเป็นเมืองที่น่าสนใจที่สุดในโลกที่ต้องมาเยือน เพราะเมื่อเดือนที่แล้วได้มีการประกาศไปว่า กรุงเทพฯเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวและมาทำงานด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้คือความเย้ายวนที่จะชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในกรุงเทพฯ
“ที่สำคัญมากกว่านั้นคือการเข้ามาในกรุงเทพมหานคร ผมคิดว่าเขาอยากจะมาดูชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยมากกว่า ว่าในขณะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 กรุงเทพฯหนักหนาสาหัสขนาดนี้ พวกเราอยู่กันอย่างไร ซึ่งวันนี้เราได้เปิดประเทศแล้ว ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่เขาน่าจะเข้ามาดู” รมว.การท่องเที่ยวฯกล่าว
ต่อคำถามที่ว่า จากการศึกษาของกระทรวงการท่องเที่ยว เขตใดของกรุงเทพฯที่น่าจะเปิดได้ นายพิพัฒน์ตอบว่า ยังไม่ชัดเจนเรื่องเขต แต่อาจจะเป็นราชดำเนิน วัดพระแก้ว ราชดำริ เป็นใจกลางเมือง
ต่อคำถามที่ว่าหลังจากการเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์และสมุยพลัสโมเดล มีการถอดบทเรียนอะไรที่จะนำมาป้องกันกรุงเทพฯบ้าง และในส่วน 7+7 ภูเก็ต มีความคืบหน้าถึงไหนแล้ว นายพิพัฒน์กล่าวว่า ได้ข้อมูลจากการเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์มาแล้ว 2 เดือน สิ่งที่นักท่องเที่ยวเรียกร้องมีเยอะมาก โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโควิดในภูเก็ตที่เกิน 200 คน จึงมีการยกระดับว่าสามารถกินอาหารได้ แต่ไม่สามารถเดินได้ในห้องอาหาร
“เพราะบางชาติ การกินอาหารกับการดื่มเป็นวิถีชีวิต จึงโดนหาว่าหลอกนักท่องเที่ยวมา ไม่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมีการใช้กฎเดียวกัน แต่ตอนนี้ นายกฯได้มีการให้กระทรวงมหาดไทยทำแผนที่อีกแบบออกมา เป็นแผนที่ลงสีระดับอำเภอ หากเขตใดเป็นสีขาวหรือเขียวสามารถดื่มได้ เพราะหากเป็นสีระดับจังหวัด จะไม่ยุติรรมต่อชาวบ้านทั่วไป คิดว่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้”
เมื่อพิธีกรถามย้ำว่า นาทีสุดท้าย ศบค.จะไม่มีมติใดที่ออกมาเปลี่ยนแปลงแผนการเปิดประเทศนี้ ใช่หรือไม่ นายพิพัฒน์ยืนยันว่า คงไม่มี เพราะเมื่อวานได้คุยกันแล้ว จะเดินหน้าตามแผนต่อไป