ในประเทศ

ศบค.ปลื้มฉีดวัคซีนป้องกันโควิดทะลุ 100 ล้านโดส เร่งฉีดเข็ม 3 กระตุ้น

ฉีดวัคซีน
เครดิตภาพ : กทม.

ศบค. – กระทรวงสาธารณสุขเผยไทยฉีดวัคซีนทะลุ 100 ล้านโดสตามเป้าหมายแล้ว เฉพาะเข็มที่ 1 ครอบคลุมประชากร 70.21 % เร่งรณรงค์ฉีดเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพิ่ม

วันที่ 20 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันที่รัฐบาลตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนชาวไทยครบ 100 ล้านโดส โดยแพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างแถลงสถานการณ์การติดเชื้อประจำวันว่า วันนี้ประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 100 ล้านโดสตามเป้าหมายที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้แล้ว

ล่าสุดข้อมูลสะสม ณ วันที่ 19 ธันวาคม 2564 เวลา 21.30 น. ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดไปได้แล้ว 100,054,961 โดส

“ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตั้งแต่ระดับชุมชน อำเภอ จังหวัดและเขต ทำให้เราฉีดวัคซีนครบตามเป้าหมายคือ 100 ล้านโดส โดยเข็มที่ 1 ครอบคลุมประชากร 70.21 % เข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากร 61.63% และเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากร 6.97%” แพทย์หญิงสุมนีกล่าว

ทางด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดเป้าหมายการฉีดวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชน ให้ได้ 100 ล้านโดส เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกัน ช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิด ล่าสุดสามารถครอบคลุมประชากรตามทะเบียนราษฎร์และประชากรแฝง ซึ่งมี 72 ล้านคนดังนี้

  • เข็มที่ 1 จำนวน 50,573,308 คน คิดเป็น 70.21%
  • เข็มที่ 2 จำนวน 44,393,213 คน คิดเป็น 61.63%
  • เข็มที่ 3 จำนวน 5,020,704 คน คิดเป็น 6.97%
  • เข็มที่ 4 จำนวน 66,722 คน คิดเป็น 0.09%

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขจะเดินหน้าจัดบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชนต่อเนื่อง และให้หน่วยงานสาธารณสุขเร่งค้นหาผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่ม 608 หรือกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มที่มีโรคเรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์

นอกจากนี้ยังต้องรณรงค์ให้ประชาชนชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มแล้วตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-กันยายน 2564 โดยเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนชนิดเดียวกัน 2 เข็ม ทั้งแอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

และเมื่อประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้น มีภูมิคุ้มกันมากขึ้น ร่วมกับปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ได้แก่ Covid Free Setting และ Universal Prevention ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดดีขึ้น จะมีการเสนอรัฐบาลเพื่อพิจารณาผ่อนปรนมาตรการ หรือพื้นที่ต่างๆ ต่อไป เพื่อให้ประชาชนได้กลับไปใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติมากที่สุดตามรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ รวมทั้งก่อให้เกิดการขับเคลื่อนในภาคเศรษฐกิจของประเทศควบคู่กันไปด้วย