ศบค.แย้มคลายล็อก 18 จังหวัดเพิ่ม พบสถานบันเทิงทำผิดกฎหมายอื้อ

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์

ศบค.ถก 20 ม.ค.นี้ คลายล็อกเพิ่ม แย้มมี 18 จังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว จ่อได้ผ่อนคลายกิจการ กิจกรรมเพิ่ม ขณะที่สถานบันเทิงมีสิทธิถูกดับฝัน หลังสาธารณสุขลงพื้นที่หาข้อมูลพบคลัสเตอร์ใหม่ผุดอื้อ-ติดเชื้อเพิ่มหลายจังหวัด ทั้งย่อหย่อนมาตรการ ฝ่าฝืนกฎหมาย หาเจ้าภาพรับผิดชอบไม่ได้

วันที่ 19 มกราคม 2565 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาล (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า ในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.) จะมีการประชุมของศบค.ชุดใหญ่ มีหลายประเด็นที่ทุกคนเฝ้ารอคอย โดยเฉพาะการประกาศเรื่องของพื้นที่สี เรื่องของการประกาศมาตรการผ่อนคลายในบางพื้นที่ ในบางกิจการ กิจกรรม เป็นสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุข และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในภาคเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว ต้องมีการหารือกันอย่างเข้มข้น

สาธารณสุขลงพื้นที่เก็บข้อมูลสถานบันเทิง

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขก็มีการประชุมร่วมกัน ร่วมกับการลงพื้นที่ไปดูเรื่องของการควบคุมโรค เรื่องของปัจจัยเสี่ยง เพื่อหาข้อมูลเสนอต่อทาง ศบค. โดยเฉพาะเรื่องของสถานบันเทิงและการอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร

แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวว่า สำหรับเรื่องของปัจจัยการติดเชื้อที่ ศบค.ชุดเล็กจะนำเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ คงจะต้องเริ่มตั้งแต่การพิจารณาหลักฐานการติดเชื้อในทั่วโลก ซึ่งตอนนี้ตัวเลขทั่วโลกเมื่อนำมาทำเป็นกราฟจะเห็นตัวเลขเป็นแบบนี้ หลายท่านบอกว่าสถานการณ์การติดเชื้อทั่วโลกชะลอตัวลง

แต่ถ้าดูสถานการณ์จริงจะพบว่ายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยองค์การอนามัยโลกก็มีความเป็นห่วงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อโดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนมีทิศทางที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งในส่วนของยุโรปและสหรัฐอเมริกา

สหรัฐโอมิครอนระบาดแทนเดลต้าภายในเดือนเดียว

โดยสหรัฐอเมริกาตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้อยู่ที่ 546,714 ราย ถึงตัวเลขจะลดลงแต่ก็ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 5 แสนราย และหลายประเทศตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็ขึ้นอยู่ในระดับหลักแสนราย ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย บราซิล ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี ซึ่งแม้ว่าจะมีอัตราการเสียชีวิตต่ำ แต่ทั่วโลกตัวเลขก็ยังค่อนข้างสูงทีเดียว เห็นได้จากโดยรวมวันเดียวผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลกขึ้นไป 3 ล้านกว่าราย อัตราการตายอยู่ที่ 1.66%

ขณะที่สหรัฐอเมริกาการรายงานการติดเชื้อกว่า 98% เป็นสายพันธุ์โอมิครอนไปเรียบร้อยแล้ว โดยโอมิครอนเข้ามาแทนการระบาดของสายพันธุ์เดลต้าภายในเวลาเดือนเดียว ขณะที่ในยุโรปจำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง เพราะยุโรปยังเผชิญกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ที่มาในช่วงหน้าหนาวด้วย ซึ่งเป็นการระบาดแบบทวีคูณ

ส่วนตัวเลขเพื่อนบ้านเราอย่างเวียดนามก็ยังสูง ตัวเลขอยู่ที่ 16,838 ราย ฟิลิปปินส์ 28,471 ราย ญี่ปุ่น 23,351 ราย มาเลเซีย 3,245 ราย ยังเป็นทิศทางที่ทรง ๆ ใกล้เคียงกับตัวเลขของบ้านเรา โดยตัวเลขของประเทศไทยวันนี้ผู้ป่วยใหม่ที่รายงานวันนี้อยู่ที่ 7,122 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 81,602 ราย อาการหนัก ปอดอักเสบ 511 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 113 ราย และมีผู้เสียชีวิต 12 คน รวมสะสมผู้เสียชีวิตตั้งแต่ต้นปี 2565 อยู่ที่ 270 คน อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 0.22%

ส่วนผู้มารับวัคซีน ณ วันที่ 18 มกราคม 2565 มีผู้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 45,031 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 96,086 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 340,711 ราย และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 – 18 มกราคม 2565 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 110,310,481 โดส

  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 51,879,455 ราย
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 47,733,153 ราย
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 10,697,873 ราย

 

“เมื่อดูทิศทางกราฟของบ้านเราก็จะใกล้เคียงกับทิศทางโลก แม้ว่าตัวเลขจะทรง ๆ แต่ก็จะเห็นตัวเลขกราฟกระดกหัวขึ้น โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่อุ่นใจคืออัตราการเสียชีวิตยังไม่สูงตาม ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขพยายามดูแลระบบการรักษาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการดูแลที่บ้านด้วยระบบ Home Isolation ทำให้เรายังมีเตียงระดับเหลือง แดง สำหรับรองรับผู้ป่วยที่อาการรุนแรงหรือผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอย่างเพียงพอ” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว

ยังพบผู้เสียชีวิตไม่ได้ฉีดวัคซีน

ส่วนผู้เสียชีวิต 12 รายในวันนี้เป็นชาย 6 ราย หญิง 6 ราย เป็นผู้ป่วยที่อายุ 60 ปีขึ้นไป 7 ราย มีโรคเรื้อรัง 3 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย และปัจจัยเสี่ยงยังมาจากโรคเบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคไต โดยอยู่ใน กทม. 1 ราย ปทุมธานี 1 ราย สมุทรปราการ 1 ราย ศรีสะเกษ 2 ราย นครราชสีมา 1 ราย ตาก 1 ราย พิษณุโลก 1 ราย สตูล 1 ราย สุราษฎร์ธานี 1 ราย ระยอง 1 ราย และสระแก้ว 1 ราย

“ปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อยังมาจากบุคคลใกล้ชิด คนรู้จัก และปัจจัยสำคัญมี 7 รายที่มีประวัติยังไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มที่ 1 และอีก 3 รายได้รับวัคซีนไม่ครบ ทำให้มีภูมิคุ้มกันไม่เพียงพอ”

สำหรับ10 จังหวดที่ติดเชื้อสูงสุดในวันนี้ กรุงเทพมหานครมาเป็นอันดับ 1 จำนวน 820 ราย สมุทรปราการ 601 ราย ชลบุรี 506 ราย ภูเก็ต 383 ราย นนทบุรี 319 ราย ขอนแก่น 313 ราย ปทุมธานี 250 ราย สมุทรสาคร 185 ราย อุบลราชธานี 166 ราย และระยอง 156 ราย

“ตัวเลขจังหวัดที่ขึ้นเป็นสีแดงเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากวานนี้ โดยตัวเลขสะสมของกทม.และชลบุรีอยู่ในระดับหลักหมื่นราย ขณะที่นนทบุรี ตัวเลขขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด รายงานว่า ส่วนหนึ่งมีปัจจัยมาจากการรับประทานอาหารร่วมกัน ก็เลยมีการขอความร่วมมือประชาชนในจังหวัดนนทบุรีงดเว้นการสังสรรค์ พบปะกัน หรือแม้แต่การรับประทานอาหารร่วมกันในที่ทำงาน เพื่อช่วยลดตัวเลขผู้ป่วยลงมา” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวและว่า

จับตา 18 จังหวัดคลายล็อกกิจการ กิจกรรมเพิ่ม

นอกจากนี้ เมื่อดูจังหวัดที่มีการติดเชื้อสูง ๆ หลังปีใหม่เป็นต้นมาก็ยังคงอยู่ในกลุ่ม 8 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวสีฟ้า ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต กระบี่ พังงา กาญจนบุรี นนทบุรี ปทุมธานี และชลบุรี

อย่างไรก็ตามในแง่การพิจาณาเรื่องการผ่อนคลายมาตรการกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ดูเฉพาะตัวเลขผู้ติดเชื้ออย่างเดียว เรามีการดูระบบสาธารณสุขในพื้นที่จังหวัดนั้น ๆ ด้วยว่าจะสามารถรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ รวมถึงการลงพื้นที่ไปดูปัจจัยเสียงและแก้ให้ตรงจุด เป็นการดูหลาย ๆ องค์ประกอบและทุกๆมิติร่วมกัน

นอกจากนี้ยังมี 18 จังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวที่กระทรวงสาธารณสุขนำมาทำเป็นกราฟ เช่น เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ อุดรธานี ระยอง จันทบุรี ตราด หนองคาย โดยรวม 18 จังหวัดนี้ทิศทางที่กระทรวงสาธารณสุขมีการเฝ้ามองอย่างใกล้ชิด สถานการณ์ยังเป็นไปในทิศทางที่ทรง ๆ ไม่ได้สูงขึ้น ซึ่งเป็นข้อมูลนำเข้าที่ประชุมที่จะมีการพิจารณาว่าจะมีการผ่อนคลายอย่างไรต่อไป

ดับฝันเปิดสถานบันเทิง พบคลัสเตอร์ติดเชื้ออื้อ

แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่พบว่าคลัสเตอร์ร้านอาหาร สถานบันเทิงคงต้องพูดคุยกันให้ชัดเจนก่อนที่จะมีการพิจารณาของศบค.ชุดใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.) ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือไม่ ทั้งนี้จากข้อมูลนำเข้าของกระทรวงสาธารณสุข มีรายงานของสถานบันเทิง ร้านอาหาร มีหลายจังหวัด เช่น นนทบุรี เพชรบุรี อุบลราชธานี

จากการลงพื้นที่สำรวจโดยละเอียดพบว่า มีสถานบันเทิง 21 แห่ง ที่พบการติดเชื้อและมีการรายงานไปที่กระทรวงสาธารณสุข ในจำนวนมี 7 ร้านด้วยกันเป็นสถานบันเทิงที่เปิดโดยมี covid free setting ผ่านการประเมินโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแล้ว แต่ว่ามีการย่อหย่อนมาตรการ ไม่มีการติดตามอย่างเพียงพอ ทำให้เกิดการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ขึ้น

นอกจากนี้ยังมีอีก 14 ร้าน เปิดโดยไม่มีการขออนุญาต เช่นที่เชียงใหม่ ขอนแก่น พะเยา ชลบุรี บุรีรัมย์ อุบลราชธานี อุดรธานี มหาสารคาม หรือถือได้ว่าเป็นการเปิดโดยน่าจะผิดกฎหมาย เพราะไม่ได้ทำในเรื่องขอมาตรการ covid free setting

 

พบร้านอาหารย่อหย่อนมาตรการ ฝ่าฝืนกฎหมาย

แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวว่า เราไม่ได้นำข้อมูลมาเพื่อตำหนิ แต่เป็นการศึกษาข้อมูลเชิงวิชาการร่วมกัน โดยสิ่งสำคัญที่ร้านอาหารเหล่านี้ไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องมาจากเรื่องของสภาพแวดล้อม ระบบระบายอากาศ ไม่จำกัดระยะเวลาการใช้บริการ ไม่จำกัดจำนวนคน ไม่มีการเว้นระยะห่าง ไม่มีการคัดกรองความเสี่ยงลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เจ้าของร้านไม่มีการกำกับให้เป็นไปตามมาตรการ พนักงานฉีดวัคซีนไม่ครบ ไม่มีการตรวจ ATK ทุก 7 วัน เป็นต้น

“บางร้านไม่สามารถแสดงการฉีดวัคซีนของพนักงานได้เลย รวมทั้งไม่ได้มีการตรวจ ATK พนักงานทุก ๆ 7 วันอย่างที่สาธารณสุขกำหนด และมีบางร้านพนักงานมีความเสี่ยงสูงก็ยังมาปฏิบัติงาน มาที่ทำงาน มาที่ร้าน และสิ่งสำคัญมีเกือบทุกร้านเลยคือ ไม่มีผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับคนที่จะดูแลเรื่องการเฝ้าระวังการติดเชื้อในร้าน คือไม่มีเจ้าภาพนั่นเอง” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวและว่า

ดังนั้นผู้ที่จะเปิดให้บริการ เปิดร้าน เปิดสถานบันเทิง ท่านก็จะต้องทำตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดด้วย

เตรียมเปิดระบบ Test & Go อีกครั้ง

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนึ่งที่จะมีการประชุมใน ศบค.ชุดใหญ่ คือเรื่องการเข้ามาในราชอาณาจักร โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่สอบถามกันเข้ามาในเรื่อง Test & Go ซึ่งมีการระงับไปตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2564 โดยตั้งแต่วันี่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมามีผู้เดินทางเข้าประเทศทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเข้ามา 130,355 คน พบผู้ติดเชื้อโควิด 4,515 คน คิดเป็น 3.46%

ตรงนี้เป็นตัวเลขที่กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวมีการมอนิเตอร์อย่างใกล้ชิด นอกจากรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ เรายังติดตามมาตรการ ถ้าพบปัญหาแต่เนิ่น ๆ หน่วยงานเกี่ยวข้องให้ความร่วมมือแก้ไข

เช่น ติดตามนักท่องเที่ยวด้วยแอพพลิเคชันให้ได้ 100% การแก้ไขปัญหาเรื่องโรงแรม รพ.คู่ปฏิบัติการที่ดูแลนักท่องเที่ยวเจ็บป่วย รวมไปถึงในพื้นที่ที่ประชาชนที่เข้าไปดูแลมีความพร้อม อาจเป็นปัจจัยร่วมที่ ศบค.ชุดใหญ่จะมีการพิจารณาให้เกิดการผ่อนคลายในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.)ได้เช่นกัน

“สิ่งสำคัญเราต้องดูแลสุขภาพของประชาชน ควบคู่ไปกับการการดำเนินชีวิตที่เป็นปกติมากที่สุด รวมทั้งภาคเศรษฐกิจที่ยังคงขับเคลื่อนได้ โดยอยู่ในเงื่อนไขที่ระบบสาธารณสุขสามารถรองรับได้ คงต้องติดตามในวันพรุ่งนี้ว่าผลประชุมของศบค.ชุดใหญ่จะเป็นอย่างไร” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวย้ำในตอนท้าย