อนุทิน ชง ศบค.คลายล็อกกิจกรรม ปรับสีจังหวัดใหม่ ปรับรูปแบบผับบาร์

อนุทิน
ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก กระทรวงสาธารณสุข

“อนุทิน” เข้าใจประชาชนต้องทำมาหากิน หาทางผ่อนคลายให้ผู้ประกอบการ ชง ศบค.คลายล็อกกิจกรรม ปรับสีพื้นที่จังหวัดใหม่

วันที่ 17 มกราคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) ในวันที่ 20 มกราคม นี้ ว่า ได้เชิญ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค หารือและชี้แจงให้ฟังว่าในการพิจารณามาตรการใด ๆ ให้คำนึงถึงมิติเศรษฐกิจ การทำมาหากิน และการใช้ชีวิต เพื่อให้ประชาชนดำเนินชีวิตเป็นปกติมากที่สุด

“แม้เชื้อโอมิครอนติดเชื้อได้เร็ว แต่จากวิจัยที่รายงานเข้ามานั้น พบว่ามีความรุนแรงน้อยกว่า รวมถึงเราอยู่ในจุดที่รับมือได้ เพราะฉีดวัคซีนได้ตามเป้า และมีแนวปฏิบัติเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด จากนี้ เราต้องเสนอให้มีการปรับมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับปกติ แต่ก็ต้องปลอดภัยด้วย เรื่องพื้นที่สีจังหวัด ก็ต้องปรับ ขอให้ทบทวน พิจารณาจากหลายมิติ เศรษฐกิจต้องเดินได้ แต่หากมีรายงานการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ต้องสามารถรองรับการจัดการได้ พร้อมสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในการใช้ชีวิตและให้ความร่วมมือ” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือต่อไป เพราะยิ่งหากให้ความร่วมมือมาก จะนำไปสู่การผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ภาครัฐ จะมีความกล้าตัดสินใจ วันนี้ เราเห็นประชาชน ไม่ใช่ไม่รู้สึก ตนได้พูดกับอธิบดีกรมควบคุมโรค ว่าต้องเข้าใจ การทำมาหากินของประชาชน เพราะข้าราชการยังไงก็มีเงินเดือน แต่ผู้ประกอบการลูกจ้างอยู่ได้ เพราะเศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ ถ้าเศรษฐกิจหยุด ก็อยู่ลำบาก

ผู้สื่อข่าวถามถึงการผ่อนคลายสถานบันเทิง นายอนุทิน กล่าวว่า ตรงไหนที่เป็นความเสี่ยงสูงจะต้องพิจารณาอย่างละเอียด เราเข้าใจปัญหาของผู้ประกอบการ และหาทางผ่อนคลาย อย่างการขอเปลี่ยนรูปแบบจากผับบาร์ มาเป็นภัตตาคาร เราเข้าใจ และเราก็ยอมดำเนินการตาม แต่ก็ขอให้เป็นร้านอาหารจริง ๆ มีมาตรการแบบร้านอาหาร ไม่ใช่ ไปเปิดเป็นผับบาร์

เมื่อถามว่าจะมีการเสนอที่ประชุม ศบค. ให้กลับมาใช้มาตรการ Test and Go หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สธ.คงเสนอให้พิจารณาเรื่อง Test and Go กลับมาใหม่ แต่ตอนนี้มีการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน ดังนั้นทุกอย่างต้องไปจบที่ ศบค. ทั้งนี้ ขอย้ำว่าเราเสนอทุกอย่าง เพราะอยากให้ประชาชนได้คลายความเดือดร้อน แต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และมีวิทยาการทางการแพทย์คอยค้ำจุนอยู่ จึงกล้าเสนอ