ศบค.เจอคลัสเตอร์ใหญ่ “สถานศึกษา” ติดโควิด 11 จังหวัด ราชบุรี หนักสุด!

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์
อัพเดตข่าว 28 มกราคม 2565 เวลา 13.49 น.

ศบค.พบคลัสเตอร์สถานศึกษาติดโควิด 11 จังหวัด หลายแห่ง ตั้งแต่ระดับก่อนอนุบาล อนุบาล มัธยมศึกษา โรงเรียนประจำ โรงเรียนกีฬา ระบุเคสใหญ่สุดเป็นโรงเรียนประจำหญิงล้วนที่ราชบุรี ติดเชื้อโควิดถึง 311 คน หลังกลับมาจากปีใหม่ ชี้ปัจจัยเสี่ยงมาจากการทำกิจกรรมร่วมกัน ยันสายพันธุ์ BA.2 ไม่รุนแรง

วันที่ 28 มกราคม 2565 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาล (ศบค.) เปิดเผยช่วงหนึ่งระหว่างแถลงสถานการณ์ประจำวันว่า ศบค.พบคลัสเตอร์สถานศึกษาหลายจังหวัด ได้แก่ ราชบุรี น่าน เพชรบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ร้อยเอ็ด สมุทรปราการ หนองคาย ยโสธร เลย ศรีสะเกษ

สำหรับโรงเรียนที่พบการติดเชื้อมีตั้งแต่ระดับก่อนวัยเรียนหรือ พรีอนุบาล โรงเรียนอนุบาล มีทั้งสถานศึกษาทั้งของภาครัฐและเอกชน และมีทั้งโรงเรียนประจำ โรงเรียนกีฬา รวมถึงโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาด้วย

ชี้ปัจจัยเสี่ยงมาจากจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม

สิ่งที่สำคัญแต่ละโรงเรียนที่พบรายงานการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน เป็นคลัสเตอร์ เมื่อสาธารณสุขลงตรวจสอบพบว่าโรงเรียนมีมาตรการที่เข้มงวด มีบุคลากรฉีดวัคซีนค่อนข้างครบถ้วน

“แต่ปัจจัยเสี่ยงจากการติดเชื้อมักจะมาจากการจัดกิจกรรม มีการรวมกลุ่ม มีการจัดแข่งขันกีฬา การจัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศ ฉลองนักเรียนจบ ม.6 ซึ่งทำให้มีการรับประทานอาหารร่วมกัน มีการเปิดหน้ากากอนามัย มีการใช้ที่ตักไอศกรีมอันเดียวกัน มีการใช้ถ้วยอันเดียวกัน ซึ่งเป็นลักษณะปัจจัยเสี่ยงเดียวกับพิธีกรรมทางศาสนา หรือการจัดงานเลี้ยง งานบวช งานแต่งงาน”

แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวต่อว่า จากการวิเคราะห์คลัสเตอร์โรงเรียนที่จังหวัดราชบุรี เป็นโรงเรียนประจำ หญิงล้วน ตอนนี้คลัสเตอร์เดียวมีรายงานยืนยันของ สสจ.ราชบุรี มีผู้ติดเชื้อรวมกันทั้งสิ้นที่รายงานวันนี้ 311 ราย ซึ่งเป็นกรณีที่โรงเรียนประจำอนุญาตให้นักเรียนกลับบ้านช่วงปีใหม่ และกลับมาในวันที่ 14-16 มกราคม 2565 นักเรียนประมาณ 570 คน กลับมาจากที่ที่แตกต่างกัน โรงเรียนได้มาตรการที่ถูกต้อง มีการตรวจ ATK ในเบื้องต้นตั้งแต่วันที่กลับมา ปรากฏว่าผลตรวจออกมาเป็นลบทั้งหมด (ไม่พบการติดเชื้อ) รวมทั้งกลุ่มครูด้วย

แต่เมื่อมีมาตรการตรวจ ATK เป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 23 มกราคม 2565 พบว่าจากเดิมที่มีผลเป็นลบ กลายเป็นผลบวก (ติดเชื้อ) ครั้งแรกที่เจอ 120 ราย โรงเรียนก็ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฉุกเฉินอย่างถูกต้อง รีบแจ้งไปที่ สสจ.ราชบุรี โดยโรงพยาบาลปากท่อ ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือ มีการคัดแยกผู้ป่วย มีการแยกผู้ที่มีความเสี่ยงสูง มีการเก็บตัวอย่าง PCR ตั้งแต่ 24 มกราคม 2565 เป็นต้นมา

ระบุตรวจ ATK เกิดผลลบลวง 10%

“รายงานวันนี้ผลเป็นบวก 311 ราย จากจำนวนนักเรียนรวมครู 6 ท่าน รวมเป็น 576 ราย โดยในวันนี้ทาง สสจ.ราชบุรี รายงานว่า นักเรียนได้เข้ารับการรักษาแล้ว 26 รายในโรงพยาบาล และมีอีก 285 ราย เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนาม เบื้องต้นมีการปิดโรงเรียนไปก่อน มีการทำความสะอาด มีการสอบสวนโรค และดำเนินการตามมาตรการที่เหมาะสม” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวและว่า

ตรงนี้ก็มีคำถามว่า การที่เราจะตรวจ ATK มีความแม่นยำเพียงพอหรือไม่ ซึ่งการตรวจ ATK นั้นมีความสำคัญ แต่ต้องพึงระวังว่าสามารถเกิดผลลบลวงได้ไม่เกิน 10% หรืออยู่ประมาณ 5-7% ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้แนะนำว่า แม้ว่าท่านจะตรวจ ATK เป็นลบ แต่ถ้าสำรวจประวัติแล้ว มีการเดินทางมาจากหลายพื้นที่ มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก มีประวัติสัมผัสผู้ที่มีความเสี่ยง ขอให้กักตัวก่อนเป็นเวลา 7 วัน ทั้งคนที่ทำงานในสถานประกอบการ โรงงาน เป็นต้น

ศบค.ห่วงอีกหลายคลัสเตอร์

แพทย์หญิงอภิสมัยยังกล่าวอีกว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่ยังมีผู้ติดเชื้อสูงสุดในวันนี้ อันดับ 1 ยังเป็นกรุงเทพมหานคร(กทม.) จำนวน 1,292 ราย รองลงมาเป็นสมุทรปราการ 743 ราย นนทบุรี 499 ราย ชลบุรี 446 ราย ภูเก็ต 379 ราย ปทุมธานี 145 ราย ราชบุรี 239 ราย นครราชสีมา 192 ราย ศรีสะเกษ 182 ราย และลพบุรี 168 ราย

“จะเห็นว่าจังหวัดที่มีกลุ่มการติดเชื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นยังอยู่ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดในปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวที่จะมีการรายงานการติดเชื้อมากกว่าพื้นที่อื่น ส่วนคลัสเตอร์ซึ่งที่ประชุมศบค.ชุดเล็กมีการพุดคุยกันด้วยความเป็นห่วง ยังมีทั้งร้านอาหาร โรงเรียน ตลาด โรงงาน สถานประกอบการ พิธีกรรมทางศาสนาที่ยังมีรายงานอย่างต่อเนื่อง เช่นงานแต่งงานที่จังหวัดน่าน จันทบุรี สระบุรี งานศพ งานบวชที่ร้อยเอ็ด” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว และว่า

ขอเน้นย้ำว่า การจัดพิธีกรรมไม่ได้เป็นตัวทำให้เกิดการติดเชื้อ แต่พบว่าหลังพิธีกรรมมักจะมีการจัดเลี้ยงอาหาร มีการเปิดหน้ากากอนามัย มีการใกล้ชิดกัน ล้อมวงรับประทานอาหารร่วมกัน รวมทั้งบางพื้นที่ยังพบการเล่นการพนันหลังจัดงานด้วย คงต้องฝากไปทางจังหวัดให้เข้มงวดด้วย

ยันสายพันธุ์ BA.2 ไม่รุนแรง

แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาหลายท่านอาจตื่นตระหนกกับโอมิครอน สายพันธุ์ BA.2 หรือ เวอร์ชันล่องหน หรือ Stealth Omicron ซึ่งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เน้นย้ำว่า ยังไม่มีรายงานที่น่าเป็นห่วง และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีการติตามสถานการณ์โลกอย่างใกล้ชิด โดยพบสายพันธุ์ BA.2 ในประเทศไทย 14 ราย แต่เบื้องต้นยังไม่พบความแตกต่างทางพันธุกรรมมากกว่าสายพันธุ์เดิม

“แม้ว่าในต่างประเทศจะมีรายงานว่า ตรวจหาเชื้อยากขึ้น มีการหลบเลี่ยงการตรวจได้ง่าย แต่กรมวิทย์ฯรายงานว่า ยังคงสามารถตรวจ BA.2 ได้จาก ATK และ RT-PCR จากมาตรฐานการตรวจของกระทรวงสาธารณสุขบ้านเราตามปกติ และไม่มีรายงานความรุนแรงว่าจะมากไปกว่าโอมิครอนเดิม โดยจะมีการเฝ้าระมัดระวังอย่างใกล้ชิด” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว