กรมเจ้าท่าแจงเรือบรรทุกน้ำมัน 3 ล้านลิตรไฟไหม้กลางเจ้าพระยา ไร้ปัญหาน้ำมันรั่ว

ไฟไหม้เรือในเจ้าพระยา

กรมเจ้าท่าเผยกรณีเรือบรรทุกน้ำมัน 3.2 ล้านลิตร ไฟไหม้และระเบิด กลางแม่น้ำเจ้าพระยา จ.สมุทรปราการ เบื้องต้นไม่พบน้ำมันดิบรั่วไหลลงแม่น้ำ เตรียมประสานเอกชนขนถ่ายน้ำมันดิบออกจากเรือ ส่วนสาเหตุรอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

วันที่ 28 มีนาคม 2565 นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยถึงกรณีเรือบรรทุกน้ำมัน 3.2 ล้านลิตร เกิดเพลิงไหม้ และระเบิดที่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา จ.สมุทรปราการ โดยระบุว่า

สมพงษ์ จิรศิริเลิศ
สมพงษ์ จิรศิริเลิศ

วานนี้ (27 มี.ค.) สำนักงานเจ้าท่าสาขาสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเรือชื่อ อัมภา 8 หมายเลขทะเบียน 510084556 หมายเลข IMO 8740101 ประเภทการใช้ บรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีจุดวาบไฟต่ำ กว่า 60 องศาเซลเซียส ขนาด 2,118 ตันกรอส สัญชาติไทยเดินทางมาจาก เกาะสีชัง

โดยภายในเรือบรรทุกน้ำมันดิบ 3,200,000 ลิตร เพื่อเดินทางไปยัง ท่าเทียบเรือหมายเลข 18B (โรงกลั่นน้ำมันบางจาก) กรุงเทพมหานคร เมื่อเรือเดินทางมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าปากคลองสรรพสามิต ตำบลพระสมุทรเจดีย์ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น

เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า ต้นเหตุเพลิงไหม้เกิดจากบริเวณหัวเรือ และจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายประสิทธิ์ สุภัทร์วัน อายุ 43 ปี ตำแหน่งต้นเรือ และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ นายณัชพิษณุพงศ์ มาเนียม อายุ 26 ปีตำแหน่งผู้ช่วยต้นเรือ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนนายเรือและเจ้าหน้าที่ประจำเรืออีก 12 ราย ปลอดภัย

ส่วนน้ำมันดิบในระวางเรือไม่มีการรั่วไหลแต่อย่างใด ห้องระวางเรืออยู่ในสภาพปกติและสามารถควบคุมได้

สำหรับการดำเนินการแก้ไข สำนักงานเจ้าท่าสาขาสมุทรปราการ ได้สั่งการให้เรือศรีสมบูรณ์ 5 (เรือทัก) เรือศรีสมบูรณ์ 11 (เรือทัก) เรือศรีธนารักษ์ 8 (เรือขจัดคราบน้ำมัน) เรือเด่นสุทธิ (เรือขจัดคราบน้ำมัน) เตรียมพร้อมหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

พร้อมกับออกประกาศกรมเจ้าท่าให้ผู้ควบคุมเรือที่แล่นผ่านบริเวณดังกล่าวให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ และออกคำสั่งห้ามใช้เรือจนกว่าจะแก้ไข และต้องผ่านการตรวจเรือจากเจ้าพนักงานตรวจเรือแล้วเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม กรมเจ้าท่าจะเข้าประชุมกับผู้เกี่ยวข้องโดยให้บริษัท เกรส โอเชียน มารีน จำกัด ที่บริหารเรือลำดังกล่าว จัดทำแผนการขนถ่ายน้ำมันดิบ จากตัวเรือ อัมภา 8 เสนอต่อกรมเจ้าท่าเพื่อพิจารณาอนุมัติแผนดำเนินการต่อไป

ขณะเดียวกัน นายฉัตรชัย เวชสาร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าสาขาสมุทรปราการ ได้เชิญลูกเรือทั้งหมดมาสอบสวนอุบัติเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้จากการเกิดเหตุเพลิงไหม้ นายสมพงษ์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าบนเรือเกิดมีประกายไฟ การเสียดสีของโซ่ที่สมอเรือ ก่อให้เกิดประกายไฟ และมีการสัมผัสกับไอระเหยของน้ำมันดิบ ทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้ แต่ยังต้องรอการพิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับหาแนวทางการป้องกันในอนาคต