กรมควบคุมโรคย้ำ คนทั่วไปความเสี่ยงติดฝีดาษลิงเป็น 0

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค

กรมควบคุมโรค เทียบฝีดาษวานร ติดยากกว่าเอดส์ ถ้าใช้ชีวิตตามปกติความเสี่ยงเป็น 0

วันที่ 23 กรกฎาคม 2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้ยกระดับการเฝ้าระวังโรคฝีดาษวานรแล้ว โดยให้โรงพยาบาลและคลินิกโรคทางเพศสัมพันธ์กว่า 500 แห่งทั่วประเทศ เข้มงวดการคัดกรองผู้ป่วยโดยเฉพาะชาวต่างชาติ หากพบผู้ต้องสงสัยให้เก็บตัวอย่างส่งตรวจทันที

พร้อมกับขยายการปูพรมค้นหาผู้มีความเสี่ยงที่อาจติดเชื้อจากผู้ป่วยรายแรก ทั้งกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดที่อยู่ในคอนโดฯ โรงพยาบาลเอกชน 2 แห่ง ยานพาหนะที่ใช้เดินทาง โรงแรมย่านป่าตอง 2 แห่ง และร้านสะดวกซัก 2 แห่ง รวม 33 ราย

แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 19 ราย ซึ่งได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจเชื้อและให้สังเกตอาการตนเอง 21 วัน ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำ 1 ราย และไม่มีความเสี่ยง 13 ราย ให้สังเกตอาการตนเอง 21 วัน เช่นกัน

หลังก่อนหน้านี้ลุยตรวจค้นสถานบันเทิง 2 แห่ง ทำการคัดกรอง 142 ราย พบผู้มีอาการไข้ ปวดตัว เจ็บคอ 6 ราย ตรวจ 5 รายไม่พบเชื้อ ส่วนอีก 1 รายเดินทางออกนอกประเทศแล้ว

ทั้งนี้ รวมแล้วมีการส่งตรวจหาเชื้อแล้ว 38 ราย ไม่พบเชื้อ 7 ราย และอยู่ระหว่างรอผล 31 ราย

นอกจากนี้ยังค้นหาเชิงรุกจากผู้ป่วยโรคผิวหนังอื่นและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในพื้นที่ โดยใช้เกณฑ์ผู้ป่วยอายุ 18 ปีขึ้นไป มีผื่นที่ไม่ใช่โรคประจำตัวตามร่างกาย หรืออวัยวะเพศ หรือได้รับการวินิจฉัยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ สุ่มเก็บตัวอย่างและส่งตรวจเชื้อ 183 ราย จากโรงพยาบาล 3 แห่ง และคลินิก 3 แห่ง

นพ.โอภาสย้ำว่า คนทั่วไปหากใช้ชีวิตตามปกติ ความเสี่ยงติดโรคฝีดาษวานรแทบจะเป็น 0 เนื่องจากหากเทียบแล้ว โรคนี้ติดยากกว่าโรคเอดส์

อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าหากมีไข้ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นแดง ตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง และเคยสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย เดินทางจากต่างประเทศ-ร่วมงานที่มีรายงานพบผู้ป่วย หรือมีประวัติสัมผัสสัตว์ฟันแทะที่มาจากแอฟริกา ให้รีบพบแพทย์และแจ้งประวัติเสี่ยง เพื่อรับการตรวจ-รักษา