ศึกแดงเดือด : 7-0

Photo by Paul ELLIS / AFP
คอลัมน์ : คุยกับเอกราช
ผู้เขียน : เอกราช เก่งทุกทาง

เกมนรกแตก ลิเวอร์พูล ถล่ม แมนฯ ยูฯ 7-0 คือตำนานบทใหม่ที่จะฝังหัวแฟนบอลไปชั่วชีวิต ไม่เคยมีแดงเดือดนัดไหนยำกันขาดลอยเท่านี้ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ยับเยินที่สุดตั้งแต่มีพรีเมียร์ลีก ขณะที่ฝั่งลิเวอร์พูลเชิดหน้าชูตาทำสถิติชนะแมนฯ ยูฯมากสุดในประวัติศาสตร์

แน่นอนว่า ชัยชนะครั้งนี้คือไฮไลต์แห่งฤดูกาลของหงส์แดง อาจเป็นจุดเปลี่ยนพาลิเวอร์พูลโบยบินติดท็อปโฟร์ตามเป้า

แนวรุกชุดใหม่ ดาร์วิน นูนเยซ โคดี้ กัคโป โม ซาล่าห์ ที่ช่วยกันยิงคนละ 2 ประตู น่าจะไปต่อ กลายเป็นแผงกองหน้าอันตรายสุดในลีกได้ไม่ยาก

แต่สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด ทุกคนตั้งคำถามว่า มันเกิดอะไรขึ้น…เป็นบ้าอะไรกัน (วะ)

ปีศาจแดงของกุนซือ เอริค เทน ฮาก กำลังขาขึ้น ลุ้น 4 แชมป์ เพิ่งได้คาราบาวคัพ ประเดิมถ้วยแรก แค่อาทิตย์เดียว ทุกคนทั้งคึกและมั่นใจ

ทีมที่กำลังพุ่งแรงสุด ๆ มาแพ้ 7-0 ได้ยังไง ?

เอาง่าย ๆ, เจอวันซวย ดวงแตก ครึ่งหลังเสีย 2 ประตูติด ๆ ช่วง 5 นาทีแรกเลยจิตหลุด สติแตก ทิ้งเกม ทิ้งเพื่อน ลืมแผน ทำตัวไม่ถูก ขณะที่คู่แข่งก็ได้ใจ ไล่ตีเป็นชุด ยิงไม่เลี้ยง

ครึ่งแรกบอลยังสูสี ลิเวอร์พูลนำ 1-0 แต่ภาพรวม แมนฯ ยูฯเหลื่อมกว่านิด ๆ จ่ายบอลชัวร์กว่า มีโอกาสยิงได้เสียวหลายครั้ง

ไม่มีแวว แม้แต่นิดเดียวว่าจะชนะกันถล่มทลาย ถ้ามีคนพูดว่า แมนฯ ยูฯจะเสีย 6 ประตูในครึ่งหลังก็คงโดนมองว่าไอ้บ้า เสียสติสิแก …

แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ปีศาจแดง ทีมแกร่งที่ลุ้น 4 แชมป์ โดนยิงครึ่งโหลในครึ่งหลัง จบเกมแพ้ 7-0 อย่างไม่น่าเชื่อ

แฟนผีช็อกทั้งโลก โดนแฟนหงส์เล่นมุข ล้อเลียนสารพัด ชีวิตเปลี่ยนชั่วข้ามคืน

ถ้าพูดแบบเอาเหตุเอาผลก็ต้องบอกว่า ครึ่งหลังบอลมันเข้าทางลิเวอร์พูล 2 ประตูใน 5 นาทีแรก คือจุดเปลี่ยน ทำให้แมนฯ ยูฯปั่นป่วน แล้วพอเร่งจะเอาคืนก็ยิ่งโดนสวนง่าย แพ้ยับกว่าเดิม

นักเตะผีไม่มีใครเล่นดี ลุค ชอว์ กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ โดน โม ซาล่าห์
หลอกหัวทิ่มหัวตำ คาเซมิโร่ หายจ้อย บรูโน่ แฟร์นันเดส งอแงทั้งเกม มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็เกือบจะไร้บทบาท

แต่อีกมุม แท็กติกของกุนซือ เอริค เทน ฮาก ก็ผิดพลาด พยายามเปลี่ยนแผนกะเซอร์ไพรส์คู่แข่ง โยก แรชฟอร์ด ไปเล่นหน้าเป้า เวาท์ เว็กฮอสท์ สวมบทหมายเลข 10 ขยับบรูโน่มาซ้าย…

เอริคคิดว่าเด็ด แต่กลายเป็นเสร็จหงส์ เพราะนอกจากแผนไม่เวิร์ก กดดันลิเวอร์พูลไม่ได้ นักเตะที่เล่นตำแหน่งไม่ถนัดยังหงุดหงิด จนพาลเล่นไม่ออกไปซะเอง

รวม ๆ แล้วก็คือ วันซวยแหละ ทำอะไรก็ผิด แถมผิดแล้วมึน แก้ไม่ถูก ไปไม่เป็น

ชีวิตคนเรา บางทีก็เจอแบบนี้นะครับ พังหมด หงุดหงิดไปหมด ต้องกลับบ้านมานอนพัก ตั้งสติ รีเซตกันใหม่ รอแก้ตัวในวันรุ่งขึ้น

แมนฯ ยูฯพังยับก็จริง แต่ทีมชั้นดี ไม่มีทางเป็นทีมชั้นเลวภายในวันเดียว

แพ้นัดนี้เป็นบทพิสูจน์ด้วยซ้ำว่า ปีศาจแดง แกร่งแค่ไหน ทีมที่จะอัพขึ้นไปยิ่งใหญ่มันต้องทั้งหนักแน่นและยืดหยุ่น ล้มได้ก็ลุกได้ เจ็บได้แต่ต้องไม่จม

ต้องคิดซะว่า นัดแพ้หงส์ ก็แค่บอลนัดเดียว จบแล้วก็จบกัน ปล่อยวางความผิดหวัง โฟกัสไปหาอะไรที่รออยู่ข้างหน้า รอเวลาแก้ตัวในนัดต่อไป

ถ้าแมนฯ ยูฯคว้าแชมป์เพิ่มได้ในช่วงที่เหลือของฤดูกาล ก็จะช่วยสมานแผล เยียวยาทั้งตัวเองและแฟนบอล ความอัปยศจากนัดแดงเดือด จะค่อย ๆ เลือนราง เป็นแค่ฝันร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต

ย้ำเหมือนเดิมว่า คนเราต้องดูกันยาว ๆ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินกันเด็ดขาด !