หมอยงย้ำ นักท่องเที่ยวจีนไม่ได้น่ากลัวกว่าชาติอื่น

หมอยงบอกอย่ากลัวนทท.จีน

โควิดที่ระบาดในจีนตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่เคยระบาดในไทย ขณะที่ในสหรัฐ-ยุโรปเป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยระบาดในไทยซึ่งน่ากลัวกว่า

วันที่ 6 มกราคม 2566 นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า การรับนักท่องเที่ยวต่างชาติชาวจีน ไม่ได้น่ากลัวไปกว่ายุโรปและอเมริกา ด้วยเหตุผลดังนี้

1.สายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศไทยขณะนี้เป็นโอมิครอน BA.2.75 ในระยะ 1 ปีที่ผ่านมาในช่วงโอมิครอน ประชากรไทยติดเชื้อไปแล้วประมาณ 70% หรือประมาณ 50 ล้านคน และการระบาดสายพันธุ์ในประเทศไทยเริ่มต้นตั้งแต่ BA.1 BA.2 แล้วเป็น BA.4-BA.5 ซึ่งสายพันธุ์ BA.5 ได้ระบาดผ่านพ้นไปแล้ว และขณะนี้เป็น BA.2.75

ขณะเดียวกัน ในยุโรปและอเมริกาสายพันธุ์ต่าง ๆ เกิดก่อนประเทศไทย และระบาดเข้าสู่ประเทศไทย สายพันธุ์ BA.2.75 ระบาดในยุโรปและอเมริกาเมื่อหลายเดือนก่อน ผ่านพ้นไปแล้ว ขณะนี้ในยุโรปและอเมริกาได้เปลี่ยนเป็น BQ1และ BQ1.1

แต่ในจีนขณะนี้ยังเป็นสายพันธุ์ในกลุ่ม BA.5 ตามหลังประเทศไทย ถ้านักท่องเที่ยวจีนเข้ามาสู่ประเทศไทยนำเชื้อโควิด-19 เข้ามา จะเป็นสายพันธุ์ที่เคยระบาดผ่านไปแล้วในประเทศไทย ตรงกันข้ามกับยุโรปและอเมริกาจะเป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยระบาดในประเทศไทย

เรื่องของสายพันธุ์ในปัจจุบันนี้ ถ้ามาจากประเทศจีนจึงไม่น่าวิตกแต่อย่างใด เพราะของเราผ่านพ้นไปแล้ว ถ้าจะกลัวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ สายพันธุ์ที่ยังไม่มีในประเทศไทยโดยเฉพาะ BQ ที่จะมาจากประเทศทางตะวันตกยังน่ากลัวกว่า เราก็ไม่ได้ตรวจ และไม่สามารถบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยได้ด้วย

2.การเกิดสายพันธุ์ใหม่ สามารถเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ทุกแห่งในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน หรือทางตะวันตก แม้กระทั่งในอินเดีย แอฟริกา ก็เกิดได้ทั้งนั้น

แต่ทั่วโลกขณะนี้มีระบบการเฝ้าระวังด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมเข้าธนาคารกลาง และทุกประเทศได้เรียนรู้ร่วมกัน ทำไมเราจึงต้องถอดรหัสพันธุกรรมอยู่ทุกวัน ห้องปฏิบัติการผมก็ทำอยู่ทุกวันเป็นการเฝ้าระวังสายพันธุ์ใหม่

เมื่อยังไม่รู้ว่าสายพันธุ์ใหม่จะเกิดที่ประเทศใด ก็ไม่รู้จะไปป้องกันปิดกั้นชาติใด เพราะการป้องกันประเทศจีน ประเทศเดียวไม่ใช่เป็นวิธีการแก้ปัญหา อาจจะมาจากประเทศใดก็ได้

3.ที่ศูนย์ผมทำการศึกษา ประชากรไทยติดเชื้อไปแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 50 ล้านคน แต่ถ้าตรวจภูมิต้านทานต่อเปลือกนอกไวรัส จะพบว่าร้อยละ 96 ของประชากรไทยมีภูมิต้านทานรับรู้แล้ว เกิดจากการฉีดวัคซีน และ/หรือการติดเชื้อร่วมด้วย

ถ้าใครไม่ได้ฉีดวัคซีนโดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก ธรรมชาติก็ฉีดให้ ด้วยการติดเชื้อไปแล้ว ในเด็กติดเชื้อแบบไม่มีอาการจะพบได้ถึง 1 ใน 3 ภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นในปีนี้ เป็นภูมิต้านทานที่เกิดจากสายพันธุ์ โอมิครอน ดีกว่าวัคซีนทุกชนิด เพราะตรงกับสายพันธุ์ที่กำลังระบาดอยู่ขณะนี้

4.การระบาดของประเทศไทยกำลังอยู่ในขาลงตามฤดูกาล เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน จะพบโรคนี้รวมทั้งโรคทางเดินหายใจน้อยมาก หรือโรค covid-19 จะสงบลง และจะไประบาดเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน ตามฤดูกาลอีกครั้งหนึ่งเป็นวงจรต่อไป

5.การให้วัคซีนต่อไปในอนาคตก็คงจะเน้นเป็นวัคซีนประจำปี โดยเฉพาะจะให้ก่อนที่มีการระบาดในฤดูฝน เช่นเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ที่มีการรณรงค์ให้ในกลุ่มเสี่ยงสูง เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและป่วยรุนแรง ผู้ที่มีภูมิเป็นบางส่วน หรือเคยติดเชื้อมาแล้ว เมื่อติดเชื้อซ้ำความรุนแรงของโรคก็จะลดลง

ทุกอย่างจะเข้าสู่วงจรปกติที่เป็นโรคตามฤดูกาล ชีวิตต้องเดินหน้า ด้วยระเบียบวินัย และการปฏิบัติตน ในการดูแลสุขอนามัยให้แข็งแรง และป้องกันการติดเชื้อและการแพร่เชื้อ