นักลงทุนแห่ถอนเหรียญจาก Crypto.com หลังไม่ไว้ใจ โอนเงินมหาศาลไปต่างกระดาน นักเทรดรายย่อยเผยเริ่มถอนเงินไม่ได้เเล้ว
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า กระดานเทรดคริปโตเคอร์เรนซีรายยักษ์ของโลก มีการเคลื่อนไหวอย่างมาก หลังกระดานเทรดยักษ์ FTX ล้มละลาย ยื่น Chapter 11 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
- หวยงวด 2 พ.ค. เช็กสถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งฯ ย้อนหลัง 10 ปี
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 2 พ.ค. 2567
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
ก่อนหน้านี้ FTX ขอความช่วยเหลือทางการเงินจาก Binance กระดานเทรดอันดับหนึ่งด้านปริมาณธุรกรรม หลังจากทำการสอบทานบัญชีได้ไม่ถึงวันก็มีการล้มดีลนี้ จากนั้นนายฉางเผิง จ้าว ซีอีโอ Binance ประกาศว่ากระดานเทรดควรแสดงความโปร่งใสด้วยการเปิดเผยทุนสำรอง (Reserved) ซึ่ง Binance มีการโชว์สินทรัพย์สำรองของตนกว่า 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
การกระทำของ Binance ทำให้นักลงทุนคริปโตเริ่มไม่ไว้วางใจกระดานเทรด ต่อมากระดานเทรดขนาดยักษ์ต่าง ๆ เริ่มมีการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ดิจิทัลมหาศาล ชุมชนคริปโต ตั้งข้อสังเกตว่าอาจทำเพื่อแสดงความโปร่งใสตามที่ Binance ทำ
อย่างไรก็ตาม มีการตรวจพบว่า Crypto.com ได้โอนทุนสำรองเป็นเหรียญอีเทอเรียม (ETH) มูลค่ากว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ไปยังกระดานเทรดอีกแห่งคือ Gate.io
ต่อมา นายคริส มาร์สซาเลก (Kris Marszalek) ซีอีโอ Crypto.com หนึ่งในห้ากระดานเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชี้แจงว่า ธุรกรรมดังกล่าวเป็นความผิดพลาด หรือ “โอนผิด” แต่เมื่อโอนกลับมาที่เดิมมูลค่ากลับลดลง
การโอนผิดดังกล่าวทำให้เกิดแรงกระเพื่อมจากตลาด เพราะมีการตั้งคำถามว่ากระดานเทรดนั้นไม่ได้ดูแลแค่เงินตัวเองจะได้อ้างว่าแค่โอนผิด อย่างนี้จะรับผิดชอบสินทรัพย์ลูกค้าหลายหมื่นล้านได้อย่างไร
จากนั้นมีการเทขายเหรียญ Cronos (CRO) โทเค็นประจำกระดาน Crypto.com ดิ่งวูบกว่า 40% ในช่วงที่เกิดวิกฤตสภาพคล่อง FTX จาก 0.095 เหรียญสหรัฐ เหลือเพียง 0.057 ขณะที่เขียนรายงานนี้
นอกจากนี้ในชุมชนคริปโต เริ่มมีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการถอนสินทรัพย์จาก Crypto.com ที่ประสบปัญหาและบางรายไม่สามารถเข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นได้ จึงเกิดความกังวลว่า Crypto.com จะกลายเป็นโดมิโนเอฟเฟ็กต์ตัวต่อจาก FTX ที่เผชิญวิกฤตสภาพคล่องหลังนักลงทุนแห่ถอนสินทรัพย์ออกอย่างรวดเร็ว