วิกฤตที่จุดชนวนวันสิ้นโลก Y2K ส่วนหนึ่งเริ่มที่ระบบคอมพิวเตอร์คำนวนปี 2000 เป็นปี 1900 ป่วนธุรกิจ ธนาคาร การแพทย์ การทหาร เขย่าสาธารณูปโภค ไฟฟ้า โทรศัพท์ ระบบส่งสัญญาณหยุดทำงาน
วันที่ 24 มกราคม 2566 กระแสแฟชั่นและการแต่งตัวในยุค 1999-2000 หรือยุค Y2K เริ่มกลับมาไวรัลอีกครั้ง พร้อมกับการเรียนรู้เรื่องราวช่วงเปลี่ยนสหัสวรรษที่เต็มไปด้วยข่าวลือ ข่าวลวง ลัทธิความเชื่อ และทฤษฎีสมคบคิดมากมาย ที่ล้วนชี้นำไปสู่ความกังวลว่าโลกจะล่มสลายในปี 2000
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้หยิบยกเรื่องราว ความเชื่อ หรือทฤษฎีสมคบคิดจากความกังวลในยุค Y2K เรื่องหนึ่งที่เรียกว่าจุดชนวนความกังวลเรื่องวันสิ้นโลกได้อย่างดี โดยเรื่องราวนี้เริ่มในแวดวงไอที-คอมพิวเตอร์
ในยุค Y2K คอมพิวเตอร์ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนทั่วโลก โดยก่อนหน้านี้มีการปรับใช้ (Adoption) คอมพิวเตอร์-อินเทอร์เน็ตครั้งใหญ่ ในหลายแวดวงโดยเริ่มจากกองทัพ สถาบันการศึกษา การแพทย์ การธนาคาร ภาคธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ ตลอดจนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ราคาถูกลงอย่างมากทำให้ชีวิตผู้คนเริ่มผูกพันกับระบบไอทีอย่างแน่นแฟ้นในช่วงทศวรรษที่ 1990s เป็นต้นมา
การเปลี่ยนผ่านสหัสวรรษสู่ปี 2000 หรือ Y2K ได้ก่อให้เกิดปรากฎการณ์วิกฤตคอมพิวเตอร์ หรือที่มีชื่อเรียกกันหลากหลายว่า Millennium bug, Y2K bug หรือ ความผิดพลาดวายทูเค, Y2K glitch หรือ Y2K error เป็นต้น
ปัญหาดังกล่าวจะเกิดกับระบบเอกสารและการบันทึกข้อมูลคริสต์ศักราชที่มีจำนวนสี่หลัก ที่นิยมย่อเหลือเพียงสองหลักท้าย โดยละตัวเลขสองหลักแรกคือ “19” ไว้ในฐานที่เข้าใจ การบันทึกดังกล่าวนิยมใช้ทั้งในแบบดิจิทัลหรือที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ รวมถึงระบบทะเบียนอนาล็อกบางส่วนที่ยังไม่ได้แก้ไขมาตลอด 100 ปี
การระบุเลขเพียงสองหลักท้ายจะเกิดปัญหาขึ้นเมื่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ใช้งานเลยเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1999 เข้าสู่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2000 ระบบพื้นฐานจะเข้าใจว่าวันปีใหม่นั้น คือ ปี ค.ศ. 1900 ซึ่งเป็นการหมุนย้อนเวลา ที่ทำให้การทำงานของระบบผิดเพี้ยน จึงสร้างความตื่นตัวในแวดวงธุรกิจ การธนาคาร การแพทย์ และการทหาร ว่าเมื่อระบบคอมพิวเตอร์ทำงานผิดพลาด อาจทำให้ระบบสาธารณูปโภค ที่มีการปรับใช้คอมพิวเตอร์ไปมากมายแล้วในทศวรรษที่ผ่านมาจะปั่นป่วน ถึงขั้นหยุดการทำงาน
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายก็เห็นแย้งและถกเถียงกันร้อนแรงว่า ข้อผิดพลาดดังกล่าวอาจจะไม่ได้กระทบกับอะไรเลย แต่เมื่อมีบริบทของข่าวลือและกระแสวันสิ้นโลกต่างๆ ประโคมโหมโรงยิ่งทำให้ความกังวลเกี่ยวกับ Bugs Y2K ส่อเค้าความจริงขึ้น
ทำไมจึงต้องระบุเลขเพียง 2 หลัก
สารานุกรมออนไลน์ของ National Geographic บันทึกเหตุการณ์ความวิตกครั้งใหญ่ครั้งนั้นไว้ว่ามีสาเหตุจากการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อนเพิ่งเริ่มเกิดขึ้นในช่วงปี 1960- 1980 วิศวกรคอมพิวเตอร์จึงใช้รหัสสองหลักสำหรับปีคริสตศักราช เลขหน้า คือ “19” ถูกละทิ้ง การอ่านวันที่ในปี 1970 จะอ่านเป็น 70 การที่วิศวกรย่อวันที่ให้สั้นลง เนื่องจากการจัดเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้พื้นที่มาก
เมื่อใกล้ถึงปี 2000 โปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์ตระหนักว่าคอมพิวเตอร์อาจไม่ตีความ 00 เป็น 2000 แต่เป็นปี 1900 กิจกรรมที่ตั้งโปรแกรมในแต่ละวันหรือรายปีจะเสียหายหรือมีข้อบกพร่อง ในวันที่ 31 ธันวาคม 1999 กลายเป็น 1 มกราคม 2000 คอมพิวเตอร์อาจตีความ กลายเป็น 1 มกราคม 1900 แทน
ความกังวลว่าระบบธนาคาร ไฟฟ้า และคมนาคมจะล่มสลาย
มีการยกตัวอย่างที่อาจส่งผลใหญ่หลวงจาก บั๊ก Y2K มากมาย เช่น ในระบบธนาคาร ที่ระบบคำนวณอัตราดอกเบี้ยเป็นรายวัน โดยเฉพาะการคำนวนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ แทนที่จะคำนวณอัตราดอกเบี้ยในหนึ่งวัน คอมพิวเตอร์จะคำนวณอัตราดอกเบี้ยเป็นลบเกือบ 100 ปี
มีความกังวลต่อไปว่า ศูนย์กลางของเทคโนโลยี เช่น โรงไฟฟ้า ก็อาจถูกคุกคามจากบั๊ก Y2K ด้วย โรงไฟฟ้าถูกบำรุงรักษาด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย ทั้งการใชข้คอมพิวเตอร์ควบคุมแรงดันน้ำหรือระดับรังสี ดังนั้นการระบุวันเวลาที่ถูกต้องจะทำให้การคำนวณเหล่านี้ล้มเหลว และอาจทำให้ผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงตกอยู่ในความเสี่ยง
นอกจากนี้ ระบบการขนส่ง ต้องพึ่งพาวันและเวลาที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายการบินตกอยู่ในความเสี่ยง เนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่มีบันทึกเที่ยวบินตามกำหนดเวลาทั้งหมดจะถูกคุกคาม
ในประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลกต่างเกิดปรากฎการณ์คนแห่ถอนเงินก่อนถึงช่วงวันปีใหม่ปี 2000 แน่นขนัดเนื่องจากความกังวลว่าระบบ ATM ของธนาคารจะขัดข้อง หลายบริษัทต้องพริ๊นท์ข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดออกมาเป็นกระดาษเพราะความกังวลว่าระบบไอทีจะล่ม
ลงทุนหลายล้านแก้บั๊ก Y2K แต่ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น
National Geographic ยังบันทึกอีกด้วยว่า “Bugs Y2K” เป็นทั้งปัญหาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์หมายถึงโปรแกรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้บอกคอมพิวเตอร์ว่าต้องทำอะไร ฮาร์ดแวร์คือตัวเครื่องจักรหรือคอมพิวเตอร์เอง
บริษัทซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ต่างเร่งแก้ไขข้อบกพร่องและจัดหาโปรแกรมที่ “เป็นไปตามมาตรฐาน Y2K” วิธีที่ง่ายที่สุดคือวิธีที่ดีที่สุด คือการเปลี่ยนโปรแกรมคำนวนวันที่-ปี ค.ศ. ให้เป็นตัวเลขสี่หลัก
ดังนั้นจึงมีภาครัฐและเอกชนจำนวนมากที่ใช้เงินหลายล้านเหรียญสหรัฐเตรียมรับมือกับปัญหาด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร
เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2000 มาถึง กลับมีปัญหาจริงน้อยมาก โรงงานพลังงานนิวเคลียร์ในอิชิกาวะ ประเทศญี่ปุ่น มีอุปกรณ์ฉายรังสีบางส่วนขัดข้อง แต่อุปกรณ์สำรองทำให้มั่นใจว่าไม่มีภัยคุกคามต่อสาธารณะ
สหรัฐฯ ตรวจพบการยิงขีปนาวุธในรัสเซียและระบุว่าเป็นข้อบกพร่องของ บั๊ก Y2K แต่การยิงขีปนาวุธมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งของรัสเซียในสาธารณรัฐเชชเนีย ไม่มีเรื่องที่ว่าคอมพิวเตอร์ทำงานผิดปกติ
ประเทศต่างๆ เช่น อิตาลี รัสเซีย และเกาหลีใต้ แทบไม่ได้เตรียมการสำหรับ Y2K เลย แต่พวกเขาก็ไม่มีปัญหาทางเทคโนโลยี ตรงข้ามกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย ที่ใช้เงินหลายล้านเหรียญสหรัฐเพื่อต่อสู้กับปัญหาข้อผิดพลาด Y2K
ในช่วงนั้นรัสเซียแทบไม่ลงทุนอะไรเลย ทำให้ออสเตรเลียมีความกังวล จึงเรียกตัวเจ้าหน้าที่สถานทูตเกือบทั้งหมดออกจากรัสเซียก่อนวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2000 เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดปัญหาขึ้นหากเครือข่ายการสื่อสารหรือการขนส่งขัดข้อง
แต่…ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ดังนั้น เมื่อไม่มีผลลัพธ์ที่ประจักษ์ชัด หลายคนมองว่าบั๊ก Y2K เป็นเรื่องหลอกลวงหรือลัทธิวันสิ้นโลก
- ย้อนเหตุการณ์ เงินหายจากบัญชีไม่รู้ตัว เกิดอะไรขึ้น ป้องกันอย่างไร
- เปิด 10 เทรนด์ผู้บริโภค ชีวิตอนาคตกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
- ตลาดคริปโตฯ มูลค่าพุ่ง 1 ล้านล้านเหรียญ ตลาดขาขึ้นกลับมาแล้วหรือ?