“สัตยา นาเดลลา” ซีอีโอ Microsoft ปิดฉากการเยือน 3 ประเทศอาเซียน “อินโดนีเซีย-ไทย-มาเลเซีย” หลังประกาศการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์และ AI ในภูมิภาคไปกว่า 1.4 แสนล้านบาท
วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 “สัตยา นาเดลลา” (Satya Nadella) ซีอีโอบิ๊กเทคระดับโลก “ไมโครซอฟท์” (Microsoft) ปิดฉากการเดินสายทัวร์อาเซียนอย่างเป็นทางการ หลังจากแลนดิ้งสู่ประเทศอินโดนีเซียเป็นที่แรกเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2567 ตามมาด้วยไทย วันที่ 1 พ.ค. 2567 และมาเลเซียในวันนี้ (2 พ.ค. 2567)
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน จัดโปรฯเด็ดเงินฝากดอกเบี้ย 21% สลาก 1 ปี แจกทอง 10 กิโล
การมาเยือนภูมิภาคอาเซียนในครั้งนี้ของ “สัตยา” ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมงาน Microsoft Build : AI Day กิจกรรมฟรี 1 วัน ที่ช่วยให้นักพัฒนาค้นพบโอกาสใหม่ ๆ จาก AI และพบปะกับพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจของ Microsoft เพียงอย่างเดียว แต่ยังมาพร้อมกับการประกาศการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์และ AI รวมถึงแนวทางการยกระดับทักษะด้านดิจิทัลของประชากรในแต่ละประเทศด้วย
แล้วทิศทางการลงทุนของ Microsoft ในแต่ละประเทศมีรายละเอียดอย่างไร ? “ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลมาสรุปไว้ดังนี้
ทุ่ม 6.2 หมื่นล้าน ลงทุน “อินโดนีเซีย”
สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ในอีก 4 ปีข้างหน้า Microsoft จะสร้าง “ดาต้าเซ็นเตอร์” ในอินโดนีเซียด้วยเงินลงทุน 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายการให้บริการคลาวด์และ AI ในประเทศ
รายงานระบุว่า “สัตยา” เข้าพบ “โจโค วิโดโด” (Joki Widodo) ประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับการวิจัย AI และการพัฒนาความสามารถของประชากรในประเทศ รวมถึง “โจโค” ยังแนะนำให้ Microsoft ตั้งดาต้าเซ็นเตอร์บนเกาะบาหลี หรือเมืองหลวงแห่งใหม่อย่าง “นูซันทารา” ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างในเกาะบอร์เนียว
ตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ระดับภูมิภาคใน “ไทย”
รายงานข่าวจากไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า Microsoft ประกาศตั้ง “Azure Region” หรือดาต้าเซ็นเตอร์ระดับภูมิภาคในไทย พร้อมเดินหน้าเสริมทักษะด้าน AI ให้กับคนไทยกว่า 100,000 ราย
“สัตยา” กล่าวว่า ไทยมีศักยภาพโดดเด่นและโอกาสในการสร้างอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมดิจิทัลและ AI การเปิดดาต้าเซ็นเตอร์ระดับภูมิภาคแห่งใหม่ ควบคู่ไปกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ สำหรับคลาวด์และ AI รวมถึงการเสริมสร้างทักษะด้าน AI ล้วนเป็นแผนงานที่ต่อยอดพันธกิจของไมโครซอฟท์ เพื่อช่วยให้องค์กรไทย ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนเติบโต ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ให้กับประเทศ
นอกจากนี้ Microsoft ยังจะทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยอย่างใกล้ชิดในการสนับสนุนนโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลัก (Cloud First Policy) ของรัฐบาล ด้วยโครงการพัฒนาทักษะด้าน AI สำหรับข้าราชการและนักพัฒนาที่ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ
ลงทุน “มาเลเซีย” ครั้งใหญ่ในรอบ 32 ปี
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า Microsoft จะขยายบริการด้านคลาวด์และ AI ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในมาเลเซียด้วยเงินลงทุน 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (8.1 หมื่นล้านบาท) ในอีก 4 ปีข้างหน้า ถือเป็นการลงทุนในมาเลเซียครั้งที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 32 ปีของ Microsoft
อีกทั้ง Microsoft ยังมีแผนยกระดับทักษะด้านดิจิทัลและ AI ให้กับประชากรในมาเลเซียกว่า 200,000 ราย เพื่อสร้างความพร้อมในการเข้าสู่เส้นทางอาชีพด้านเทคโนโลยี
“สัตยา” กล่าวว่า Microsoft จะทำงานร่วมกับรัฐบาลมาเลเซียเพื่อจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้าน AI แห่งชาติ และเพิ่มขีดความสามารถด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับประเทศ
“การมีโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกอยู่ในประเทศ จะช่วยให้ทุกองค์กรและกลุ่มสตาร์ตอัพได้รับประโยชน์”
“อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย กล่าวว่า การลงทุนของ Microsoft ช่วยสนับสนุนความพยายามของมาเลเซียในการพัฒนาขีดความสามารถด้าน AI
และนอกจากจะประกาศทิศทางการลงทุนในแต่ละประเทศแล้ว “สัตยา” ยังประกาศความมุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะด้าน AI ให้บุคลากรจำนวน 2.5 ล้านคนในประเทศอาเซียน ภายในปี 2568 ภายใต้การดำเนินงานร่วมกับภาครัฐ องค์กรไม่แสวงผลกำไร องค์กรธุรกิจ รวมถึงชุมชนต่าง ๆ ในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม
โดยความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ สอดคล้องกับแผนแม่บทอาเซียนด้านดิจิทัล 2568 (ASEAN Digital Masterplan 2025) ที่มุ่งพัฒนาบุคลากรที่มีความพร้อมด้าน AI ตลอดจนต่อยอดเป้าหมายสำคัญของไมโครซอฟท์ในการส่งเสริมให้กับบุคคล องค์กร และชุมชนในประเทศอาเซียน สามารถนำศักยภาพของ AI มาใช้ขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม การประกาศการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลครั้งใหญ่ในอินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซียของ “สัตยา” เป็นที่น่าจับตาอย่างมากว่าจะทำให้เกิดการปลดล็อกศักยภาพด้านดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียนต่อไปอย่างไร
