คุยกับนายก TGA คนใหม่ Co-Dev ทางลัดอัพสปีดเกมไทย

game
กิตติพงศ์ พฤกษอรุณ

อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทยเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ที่มีศักยภาพ ด้วยขนาดการบริโภคภายในประเทศที่สูงเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาครองจากสิงคโปร์ ขณะที่การบริโภครวมอยู่ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท ในปี 2566 แต่รายได้ที่เกิดจาก IP (Intellectual property) ของสตูดิโอเกมไทยกลับต่ำเรี่ยดินที่ 800 ล้านบาทเท่านั้น

การบ่มเพาะอุตสาหกรรมเกมจึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ภาครัฐ และเอกชนให้ความสนใจ

“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสพูดคุยกับ “กิตติพงศ์ พฤกษอรุณ” นายกสมาคมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA) คนใหม่ และในอีกบทบาทเป็น กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (ชื่อเดิม Asiasoft) หลากหลายแง่มุมทั้งโอกาส ความท้าทาย กับเป้าหมายในการผลักดันตลาดเกมไทย

ศักยภาพเกมไทย

“กิตติพงศ์” กล่าวว่า บทบาทของนายกสมาคมฯก็เพื่อเป็นปากเป็นเสียงให้ผู้ประกอบการ เป็นคนกลางในการเชื่อมโยงประสานงาน สนับสนุน สานต่อภารกิจของนายกฯคนก่อนที่มีการวางเป้าหมายว่าจะต้องผลักดันมูลค่าตลาดเกมไทยจาก 800 ล้านบาท เป็น 5,000 ล้านบาท ให้ได้ในปี 2573

“มูลค่ารวมของตลาดเกมอยู่ที่ 3.8-4 หมื่นล้านบาท แต่มูลค่าจริงจากการบริโภคและส่งออกที่เกิดกับคอนเทนต์ ที่เป็น IP ของคนไทยอยู่ที่ 800 ล้านบาทเท่านั้น เกมไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำเกมออนไลน์เพราะลงทุนสูง เราเน้นรับจ้างผลิต ทำแอนิเมชั่น หรือทำเกมเฉพาะกลุ่มขายบนเครื่อง PC แบบครั้งเดียวขาด เมื่อไซซ์ของอุตสาหกรรมเล็ก ก็ยิ่งหาทุนยาก การทำเกมสเกลใหญ่บ็อกซ์บัสเตอร์ยาก”

และเมื่อมองว่าอุตสาหกรรมยังขาดอะไรบ้าง เพื่อหาวิธีผลักดันให้เติบโตตามเป้าที่วางไว้ “คน” หรือทาเลนต์ และการขายโปรเจ็กต์ยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก

ADVERTISMENT

“ต้นน้ำคือเรื่องคน จะทำอย่างไรให้มีบุคลากรเพิ่มมากขึ้น คนที่เรียนด้านไอทีมีหลายสาขา เรียนเรื่องเกมยิ่งน้อยลงไปอีก แล้วในเกมยังมีเรื่องกราฟิกดีไซน์ แอนิเมชั่น มิวสิก เหตุผลที่คนเรียนน้อย เพราะอุตสาหกรรมไม่ใหญ่พอ ทักษะหรือสกิล ที่แม้จะไม่ได้เรียนโดยตรงก็ยังหายาก เพราะเราไม่มีประสบการณ์การทำเกมที่ประสบผลสำเร็จ อาจารย์ที่สอนเรื่องเกม ไม่เคยทำเกมขายจริง หรือผู้ประกอบการที่เข้าไปสอน ก็ไม่มีใครเคยทำเกมระดับ AAA ที่มีงบประมาณสูง และมีชื่อเสียง ซึ่งมักผลิตและจัดจำหน่ายโดยผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ หรือที่เรียกว่าเป็นบล็อกบัสเตอร์”

ฝากความหวัง THACCA

สุดท้ายคือเรื่อง “เงินทุน” เนื่องจากเกมที่มีคุณภาพต้องใช้เงินลงทุนสูงเป็นหลักร้อยล้านบาท ขณะที่สตูดิโอเกมในประเทศไทยปัจจุบันลงทุนกันแค่หลักล้าน หรือมากสุดคือ 10 ล้านบาท เพราะเมื่อเกมสเกลใหญ่จะใช้คนเยอะ ค่าพัฒนาก็เยอะตามไปด้วย จึงต้องมีภาครัฐเข้ามาช่วย หากรอให้ผู้ประกอบการเติบโตเองจะใช้เวลานาน

“ดังนั้น สิ่งที่สมาคมเกมซึ่งเป็นสมาคมการค้าหนึ่งช่วยผลักดันได้คือเข้าไปเป็นคณะอนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์สาขาเกม เพื่อเสนอความต้องการและแนวทาง ยังดีที่ว่าเรื่องนี้รัฐบาลสนใจ ในอดีตเวลาหน่วยงานรัฐสนับสนุนอุตสาหกรรม เขาจะคิดเป็นโปรเจ็กต์ ที่รัฐคิดว่าดี ไม่ได้มาจากอุตสาหกรรม แต่ในอนาคตเราจะมีหน่วยงานที่เรียกว่า THACCA จัดสรรผ่านหน่วยงานรัฐ แต่บูรณาการร่วมกัน เช่น หากรัฐมีโครงการอบรมนักศึกษารู้ และสร้างเกม ก็ต้องบูรณาการต่อ คือให้เขาไปขายของ ขอสิทธิประโยชน์ให้สตูดิโอ เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าจะผลักดันไปทางใดต่อ โดยสมาคมจะดูภาพรวมเพื่อขับเคลื่อนการสนับสนุนไปทิศทางเดียวกัน”

Co-Dev ทางลัดอัพสปีด

“กิติพงศ์” กล่าวต่อว่า ด้วยข้อจำกัดด้านกำลังคนและงบประมาณ ทำให้มีแนวคิดที่น่าสนใจที่กำลังเสนอ เพื่อให้เกิดการเจรจา โดยมีภาครัฐช่วยออกหน้า คือการ Co-develop ที่ตนมองว่าเป็น “ทางลัด” ในการพัฒนาซอฟต์แวร์เกม

“ในการพัฒนาเกมระดับ AAA หรือบล็อกบัสเตอร์ของบริษัทระดับโลก เราอาจจะขอเข้าร่วมเป็นทีมพัฒนาในบางส่วน เช่น ส่วนที่เราทำได้เก่งมาก ๆ คือเรื่องกราฟิก และแอนิเมชั่น อาจเป็นการเอาต์ซอร์ซหรือร่วมโดยตรงก็ได้ เพื่อเอาองค์ความรู้เปรียบเทียบได้กับการเป็นผู้ช่วยเชฟ เวลาทำอาหาร แค่เชฟบอกมาว่า ต้องการให้เราทำอะไร จากนั้นเราสร้าง IP ของไทยแทรกไว้”

ยกตัวอย่างเกมดังอย่าง Assassin’s creed ที่มีฉากหลังเป็นเมืองต่าง ๆ ในโลก ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกนั้นก็อาจแทรกฉากกรุงเทพฯในเกมดังเช่นนี้ได้ เป็นต้น หรือนำ Engine ในการสร้างเกมที่ทำสำเร็จแล้วมาร่วมมือกับนักพัฒนาชาวไทย เป็นต้น เพราะโมเดลธุรกิจ หรือรูปแบบของเกมที่เขาทำพิสูจน์แล้วว่าเวิร์ก

ที่จริงแล้วสภาพรูปแบบเกมในตลาดโลก มีโมเดลธุรกิจไม่ได้ต่างกันมากนัก รูปแบบเกมก็เช่นกัน แต่ความโดดเด่นอยู่ที่การ Mod (Modifying) กระบวนการเปลี่ยนแปลงโดยผู้เล่นหรือแฟน ๆ ในด้านหนึ่งหรือหลายด้านของวิดีโอเกม การ Mod 
อาจมีตั้งแต่การเปลี่ยนแปลง และปรับแต่งเล็กน้อยในเชิงกราฟิก ไปจนถึงการปรับปรุงครั้งใหญ่จนเป็นเกมใหม่

ถ้าเอกชนเข้าไปคุยกับบริษัทเหล่านั้นจะยาก แต่ถ้าภาครัฐช่วยเจรจาแล้วร่วมลงขันกับเอกชนทำโปรดักต์แชมเปี้ยนขึ้นมา ก็มีโอกาสเป็นไปได้สูง และตอบสนองต่อแนวคิดที่อยากผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาเกมที่ดึงดูดสตูดิโอเกมใหญ่เข้ามาอีกด้วย

ฝันสู่สภาอุตสาหกรรมเกม

“กิตติพงศ์” กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้สมาคมซอฟต์แวร์เกมไทย เป็นเพียงสมาคมการค้าหนึ่ง บทบาทในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมจึงมีไม่มาก แต่ในอนาคตเมื่ออุตสาหกรรมเกมเติบโตขึ้นตามเป้าหมายก็อยากยกระดับสมาคมขึ้นเป็น “สภาอุตสาหกรรมเกม” เพื่อให้เป็นนิติบุคคล และดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ได้มากกว่าสมาคมฯ โดยเฉพาะการออกหน้าปกป้องอุตสาหกรรมเกม และส่งเสริมควบคู่กัน

และขณะนี้กำลังจะมีการยกร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกมขึ้นมาใหม่ โดยแยกขาดจาก พ.ร.บ.ภาพยนตร์ ซึ่งส่วนหนึ่งของสาระสำคัญคือการจัดเรตติ้งเกม แม้เป็นเรื่องที่ดี แต่ในมุมมองของเอกชนมองว่า การจัดเรตติ้งต้องยืนบนหลักดูแลกันเองในอุตสาหกรรม เพื่อให้มีมาตรฐานที่เป็นสากล มีความยืดหยุ่น และเข้าอกเข้าใจอุตสาหกรรมมากกว่า เนื่องจากการจัดเรตติ้งในกฎหมายเดิมเน้นการควบคุมจนธุรกิจเดินต่อได้ยาก

ส่วนของการขึ้นทะเบียนเกมเพื่อจัดการการนำเข้า จัดจำหน่าย และเก็บภาษี รวมไปถึงมาตรการลงโทษ เป็นเรื่องที่เห็นด้วย จึงอยากเห็นหน้าตาของกฎหมายใหม่เร็ว ๆ

Gamescom Asia เพิ่มโอกาสเกมไทย ?

ปลายเดือนนี้จะมีอีเวนต์ใหญ่ที่คนในวงการเกมเฝ้ารอ และไม่ใช่ “ไทยแลนด์เกมโชว์” แบบเดิม ๆ เพราะผสมผสานสองงานเข้าด้วยกัน และอีกหนึ่งที่เพิ่มเข้ามา คือ “Gamescom Asia” ซึ่งเป็นงานแสดงเกมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2021 จากความร่วมมือของ Koelnmesse Singapore และสมาคมอุตสาหกรรมเกมเยอรมัน เพื่อเป็นเวทีให้นักพัฒนาเกมในเอเชียได้นำเสนอผลงาน

“กิตติพงศ์ พฤกษอรุณ” นายกสมาคมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA) พูดถึงอีเวนต์ใหญ่ที่สมาคมฯ และภาครัฐ ผ่านคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันประสานงานให้มีการนำมหกรรมเกมสองงานมาจัดร่วมกัน งานแรกคือ Thailand Game Show ซึ่งจัดทุกปีช่วงเดือน ต.ค. ที่เหล่าเกมเมอร์ ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายทั้งเกม และฮาร์ดแวร์มาออกบูทแสดงผลงานและโรดโชว์ในพื้นที่ขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่พบปะสำคัญแบบ B2C

อีกงานที่จะมาจัดที่ไทยปีนี้ คือ Gamescom Asia ซึ่งจัดคู่เคียง เน้น B2B หรือเป็นงาน “ขายของ” ที่นักพัฒนา สตูดิโอ และนักลงทุน ได้มาพบปะเจรจากัน

“Gamescom Asia ส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมเกมไทยมาก ซึ่งในครั้งนี้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Depa เจรจาขอจัดที่ไทย 3 ปี โดยให้เราช่วยออกค่าใบอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์งาน โดยมีเงื่อนไขคือ ผู้จัดงานจะต้องส่งเสริมอุตสาหกรรมเกมไทย มี Thai Pavilion ตั้งในงาน และมีตั๋วให้เข้าร่วม มีการส่งเสริมให้ตัวแทนนักศึกษาไทยเข้าพิตชิ่งเสนอผลงานเกมในงานนี้ และจะมีบริษัทเกมใหญ่ ๆ 30 รายไปร่วมด้วย”

กิตติพงศ์มองว่า Depa มีเจตนาสำคัญที่จะดึงดูดสตูดิโอหรือบริษัทเกมมาที่ประเทศไทย ตามนโยบายการทำให้เป็น GameHub ของภูมิภาค โดยจะมีการสร้างพื้นที่ใน Thailand Digital Valley รองรับบริษัทเกมโดยเฉพาะ และคาดว่าจะมี Buyer สนใจพื้นที่ และเข้ามาลงทุนในประเทศ”

สำหรับ “Gamescom Asia x Thailand Game Show” จะมีขึ้นในวันที่ 16-19 ต.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ข้อมูลจากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเกมในคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ระบุว่า ปี 2023 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ DITP, Depa และสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทยได้เข้าไปร่วมกันจัดบูท “Thailand Pavilion” ในงาน Gamescom Asia 2023 ที่สิงคโปร์ มีนักพัฒนาเกมชั้นนำของไทย 10 บริษัท เเละทีมพัฒนาเกมไทยนำผลงานเกม 18 ผลงาน ไปร่วมจัดแสดงผลงานด้วย มีการเจรจาธุรกิจกับคู่ค้ารวม 192 ราย ทั้ง Game Publisher, Game Developer, Media และผู้สนใจทั่วไป