รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2561 ได้เชิญผู้ประกอบการช่องทีวีเข้าร่วมประชุม “การจัดลำดับความนิยมในการรับชมโทรทัศน์ดิจิทัล” ให้แก่ผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล รวมถึงบริษัทซุปเปอร์ บรอดแบนด์เน็ทเวอร์ค จำกัด ผู้บริหารจัดการช่องรายการผ่านแอปพลิเคชัน AIS PLAY
โดย พ.อ.นที นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการรับชมโทรทัศน์ของผู้ชมในสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไป โดยหันมารับชมรายการโทรทัศน์ผ่านช่องทางแอปพลิเคชันโทรศัพท์เคลื่อนที่กันมากขึ้น แต่ข้อมูลการรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านแอปพลิเคชันโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีแนวโน้มการใช้งานเพิ่มสูงขึ้นยังไม่ได้มีการนำมารวบรวมและเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์พฤติกรรมการรับชมโทรทัศน์
ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาแนวทางการวัดพฤติกรรมการรับชมดังกล่าวอย่างรอบด้านยิ่งขึ้น ผู้แทนจากผู้ประกอบกิจการช่องรายการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลจึงเสนอให้มีการวัดพฤติกรรมการรับชมรายการโทรทัศน์ที่นำมาออกอากาศผ่านทางแอปพลิเคชันโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วย
ทั้งนี้ บริษัท ซุปเปอร์ บรอดแบนด์ เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ SBN ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ สำหรับกิจการไม่ใช้คลื่นความถี่ และเป็นผู้บริหารจัดการช่องรายการผ่านแอปพลิเคชัน AIS PLAY ได้ให้ความร่วมมือกับสำนักงาน กสทช. พัฒนา การวัดความนิยมของรายการโทรทัศน์ที่นำมาออกอากาศผ่านทางแอปพลิเคชันโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือที่เรียกว่า “ดิจิทัลเรตติ้ง” โดยในเบื้องต้นได้เปิดเผยข้อมูลการรับชมโทรทัศน์ผ่าน PLAYBOX และ AIS PLAY ของช่องรายการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลในเดือนตุลาคม 2561 เช่น จำนวนผู้รับชม (แบบไม่นับซ้ำ) หรือ Unique Audience และจำนวนยอดรับชม (แบบนับซ้ำ) หรือ View
“การประชุมร่วมกับผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล และ SBN เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาดิจิทัลเรตติ้งของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ และเปิดเผยข้อมูลพฤติกรรมการรับชมรายการโทรทัศน์ที่นำมาออกอากาศผ่านทางแอปพลิเคชันโทรศัพท์เคลื่อนที่ของแต่ละช่องรายการ ที่ประชุมฯ เสนอให้สำนักงาน กสทช. เป็นตัวกลางในการนำส่งข้อมูลพฤติกรรมการรับชมโทรทัศน์ผ่าน PLAYBOX และ AIS PLAY (รายเดือน) ไปยังผู้ประกอบการฯ เพื่อให้สามารถนำไปใช้อ้างอิงต่อไปได้”