Kabbage ฟินเทคสุดเลิฟของเอสเอ็มอี

คอลัมน์ Startup ปัญหาทำเงิน
โดย มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ

จำได้มั้ยว่ามียุคหนึ่งที่ใคร ๆ ก็เห่อ “เอสเอ็มอี” โดยเฉพาะในอเมริกาที่ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจชาติเลยทีเดียว แต่พอเจอวิกฤตเศรษฐกิจปี 2009 บรรดาธนาคารต่างเพิ่มมาตรการเข้มการปล่อยสินเชื่อ ทำเอสเอ็มกระอักเลือด เพราะขาดสภาพคล่อง

จังหวะนั้นเองมีฟินเทคชื่อ Kabbage กำเนิดขึ้นในแอตแลนตาเพื่อปล่อยกู้ให้เอสเอ็มอีโดยเฉพาะ มีจุดเด่นที่อนุมัติรวดเร็ว แค่ 10 นาที หากคุณสมบัติผ่าน รับเงินไปเลยสูงสุด 250,000 เหรียญ แต่ต้องผ่อนชำระให้หมดภายใน 6-12 เดือน

กระบวนการที่รวดเร็วมาจากการใช้ AI รวบรวมข้อมูลทางการเงินจากแหล่งต่าง ๆ แทนการพึ่งพาเอกสาร ทำให้สืบเสาะข้อมูลสถานะการเงินและการเคลื่อนไหวทางธุรกิจได้ภายในไม่กี่นาที แถมมีข้อมูลเชิงเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นในแวดวงเดียวกัน เพื่อตัดสินความสามารถในการใช้หนี้ก่อนจะกำหนดวงเงินกู้และอัตราดอกเบี้ย

นับตั้งแต่เปิดให้บริการจนถึงตอนนี้ Kabbage ปล่อยกู้ไปแล้วกว่า 7 พันล้านเหรียญ ลำพังไตรมาส 2 ของปีนี้ ปล่อยกู้ไปถึง 700 ล้านเหรียญ และตั้งเป้าจะปล่อยกู้ให้ได้ 2.4-3 พันล้านเหรียญในปีนี้ รายได้ของ Kabbage มาจากดอกเบี้ยที่ 1.5-10% (ขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้)

ความโดดเด่นที่ดึงดูดเงินลงทุน จนบริษัทระดมทุนไปได้แล้วกว่า 500 ล้านเหรียญ และเป็นยูนิคอร์นที่มีค่าตัวถึง 1.2 พันล้านเหรียญ

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทประกาศความร่วมมือกับยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซแห่งเอเชีย Alibaba ภายใต้โครงการ Pay Later ปล่อยกู้วงเงินสูงถึง 150,000 เหรียญให้นักธุรกิจชาวอเมริกันที่ซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มของ Alibaba (ระยะเวลา 6 เดือน ดอกเริ่มต้น 1.25%)

นักวิเคราะห์มองว่านี่คือกลยุทธ์ใหม่ในการเจาะตลาดอเมริกาของ Alibaba หลังวิ่งชนตอมาตลอด แม้แจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba จะลงทุนบินมาชวนนักธุรกิจอเมริกันด้วยตัวเอง อีกทั้งยังสัญญากับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่า Alibaba จะช่วยเพิ่มงานให้คนอเมริกันถึง 1 ล้านตำแหน่งก็ไม่ประสบผล เพราะโดนหางเลขสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ทั้งความพยายามของ Alipay ในการควบรวมกิจการของฟินเทค อย่าง MoneyGram ก็โดนสกัดกั้นจากหน่วยงานของรัฐโดยอ้างเรื่องปัญหาความมั่นคงทำให้ Alibaba ต้องดิ้นรนหาทางอื่นจนกลายเป็นความร่วมมือกับ Kabbage ในวันนี้นั่นเอง

ความร่วมมือนี้เป็นความหวังใหม่ของ Alibaba ในการเข้าถึงนักธุรกิจอเมริกันแบบเนียน ๆ โดยเชื่อว่าน่าจะจูงใจให้ชาวอเมริกันอยากทำมาค้าขายผ่าน Alibaba มากขึ้น โดยเฉพาะพวกที่เน้นซื้อของลอตใหญ่และต้องการเพิ่มกระแสเงินสดหมุนเวียน


ส่วน Kabbage แฮปปี้กับดีลนี้อยู่แล้ว เพราะได้ยืนหนึ่งเป็นผู้ให้บริการแต่เพียงผู้เดียวบนแพลตฟอร์มนี้ (แม้กระทั่ง Alipay ก็ต้องหลบไป) สามารถปล่อยกู้รัว ๆ มีลูกค้ามารอถึงปากประตู ก็ดูกันไปว่าโครงการนี้จะวิน-วินกันถ้วนหน้าอย่างที่หมายมั่นปั้นมือกันหรือไม่