ชงแผนปลดระวางไทยคม 5 เช่าดาวเทียม ตปท.แก้จอดำ

“ไทยคม” งัดแผนฉุกเฉิน เสนอ”ดีอีเอส-กสทช.”หลังระบบแจ้งสถานะดาวเทียมไทยคม 5 มีปัญหา เตรียมปลดระวางก่อนหมดสัมปทาน พร้อมโอนย้าย 157 ช่องทีวี ทั้งโยกไปใช้ไทยคม 6-ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างประเทศให้เสร็จก่อน 20 ก.พ.นี้ ไม่ให้กระทบลูกค้ากว่า 10 ล้านราย

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้มีหนังสือด่วนที่สุดแจ้งให้ กสทช.พิจารณาการขออนุญาตจัดหาช่องสัญญาณต่างประเทศตามแผนบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม 5 ในภาวะฉุกเฉิน ตามที่ บมจ.ไทยคมร้องขอ หลังจากเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2562 ที่ผ่านมามีเหตุขัดข้องทางของระบบแจ้งสถานะของดาวเทียมไทยคม 5

“เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน จึงได้เตรียมเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด กสทช. พิจารณาในวันที่ 15 ม.ค. 2563 ทันที”

แหล่งข่าวภายในสำนักงาน กสทช. เปิดเผยว่า แม้ผู้เชี่ยวชาญและผู้สร้างดาวเทียมได้ร่วมกันทดสอบและหาวิธีการกู้คืนแล้ว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ และหากไม่สามารถกู้คืนระบบได้อาจต้องปลดระวางดาวเทียมไทยคม 5 ในปลายเดือน ก.พ. เพราะต้น มี.ค. ดาวเทียมจะเข้าสู่ช่วงเวลาที่เงาของโลกบดบังดาวเทียม ซึ่งจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่

สำหรับปัญหาขัดข้องทางเทคนิคดังกล่าวทำให้ระบบควบคุมภาคพื้นดินไม่สามารถทราบข้อมูลอัตราการใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ได้ ว่ามีเพียงพอหรือไม่ จึงมีความเสี่ยงที่อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าทำให้ไม่สามารถควบคุมดาวเทียมได้อีกต่อไป จึงเป็นภาวะวิกฤตฉุกเฉินที่จำเป็นต้องมีการโอนย้ายลูกค้าออกจากดาวเทียมไทยคม 5 โดยด่วน ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 20 ก.พ. 2563

10 ล้านครัวเรือน 157 ช่อง จอดำ

สำหรับผู้ใช้งานดาวเทียมไทยคม 5 ที่จะได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ในไทย มี 157 ช่อง หลักคือช่องทีวีดิจัล 14 ช่อง ช่องทีวีดาวเทียมของบริษัท ไอพีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 55 ช่อง ช่องทีวีของบริษัท พีเอส ไอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 24 ช่อง และทีวีของ บมจ. กสท โทรคมนาคม 21 ช่อง รวมถึงประชาชนที่ใช้การรับชมรายการทีวีผ่านจานรับสัญญาณดาวเทียมทั้ง C-Band และ KU-Band อีกกว่า 10 ล้านจานทั่วประเทศ จะได้รับผลกระทบ “จอดำ” ทันที หากไม่สามารถโอนย้ายลูกค้าออกจากไทยคม 5 ได้ทันกรอบเวลาที่กำหนด

เปิดแผนฉุกเฉินไทยคม

สำหรับแนวทางที่ บมจ.ไทยคมเสนอมา คือย้ายช่องรายการทีวีจากไทยคม 5 ไปไทยคม 6 เนื่องจากอยู่ตำแหน่งวงโคจรเดียวกัน ลดผลกระทบต่อผู้ชม แต่เนื่องจากดาวเทียมไทยคม 6 มีการใช้งานหนาแน่น เกือบ 100% ของความจุ จึงต้องย้ายผู้ใช้งานด้านโทรคมนาคมจากไทยคม 6 ไปใช้ดาวเทียมต่างประเทศ เพื่อให้มีขีดความสามารถรองรับลูกค้าจากไทยคม 5 เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อยหากมีการโอนย้ายดาวเทียมรวมถึงย้ายลูกค้าไทยคม 5 ที่เป็นบริการโทรคมนาคมไปใช้ดาวเทียมต่างประเทศด้วย

โดย บมจ.ไทยคมจะเริ่มย้ายลูกค้า 13 ราย ไปใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติ 5.5 ทรานสปอนเดอร์เป็นกรณีฉุกเฉินตั้งแต่ 15 ม.ค. 2563 โดยมีกำหนดระยะเวลาไม่เกินขอบเขตของสัญญาณดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ คือตั้งแต่ ม.ค. 2563 ถึงไม่เกิน 10 ก.ย. 2564 โดยไทยคมจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด และนำส่งส่วนแบ่งรายได้ที่ได้จากลูกค้าที่โอนย้ายไปใช้งานดาวเทียมต่างชาติ ตามข้อกำหนดของสัญญาสัมปทาน

ช่องทีวีบิ๊กเนมตบเท้าย้าย

สำหรับดาวเทียมต่างชาติที่ บมจ.ไทยคมได้ประสานงานไว้แล้ว ได้แก่ KTSat8 ของเกาหลีใต้, Measat3/Measat3A ของมาเลเซีย และ Apstar7 ของประเทศจีน โดยลูกค้าที่ต้องย้ายไปใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติ แบ่งเป็นลูกค้าไทย 7 ราย 4 ทรานสปอนเดอร์ อาทิ บมจ.ทีโอที บมจ. อสมท บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์ และวิทยุ (ช่อง7) จำกัด กรมประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก และลูกค้าต่างชาติ 4 ราย 1 ทรานสปอนเดอร์

ช่องทีวีมั่นใจ กสทช.จะไฟเขียว

นายมานพ โตการค้า ประธานบริษัท ไอพีเอ็มทีวี จำกัด ผู้จำหน่ายจานดาวเทียมจานส้ม IPM กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้รับการประสานงานจาก บมจ.ไทยคมเมื่อ ธ.ค.ที่ผ่านมา ตั้งแต่ไทยคม 5 เริ่มมีปัญหาจึงมีการประชุมวางแผนสำรองร่วมกันเพื่อไม่ให้ผู้ใช้บริการได้รับผลกระทบ ซึ่งการโอนไปใช้ดาวเทียมไทยคม 6 หรือดวงอื่นที่อยู่ในตำแหน่ง 78.5 ตะวันออก จะไม่กระทบผู้ใช้งาน เพราะปัจจุบันแพลตฟอร์มทีวีดาวเทียมจะมีการปรับจูนช่องสัญญาณอัตโนมัติผ่านกล่องเซตท็อปบ็อกซ์ได้อยู่แล้ว ยกเว้นในบางครัวเรือนใช้เครื่องรุ่นเก่าอาจได้รับผล

กระทบแต่มีเหลือไม่มากนัก

“ไม่มีเหตุผลที่ กสทช.จะไม่พิจารณาอนุมัติให้ไทยคม เพราะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้งานเป็นหลัก และที่ผ่านมาอุตสาหกรรมทีวีดาวเทียมได้รับผลกระทบในหลายส่วนอยู่แล้ว”