เมื่อโควิด-19 ยังอยู่ การดำเนินชีวิตวิถีใหม่ก็ยังต้องดำเนินต่อไป ในแง่องค์กรต่าง ๆ ต้องปรับตัวในทุกมิติ ทั้งด้านบุคลากร กลยุทธ์ เพื่อให้องค์กรเดินต่อได้ ล่าสุด “เอคเซนเซอร์” บริษัทที่ปรึกษาด้านดิจิทัล และ “โกลบเทค” ผู้ให้บริการข้อมูลแผนที่ดิจิทัล ออกมาพูดถึงเทรนด์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ เป็นแนวทางให้องค์กรปรับตัวได้เร็วขึ้น
โควิดเปลี่ยนพฤติกรรม
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
“ดาวิน สมานนท์” กรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานบริการทางการเงิน เอคเซนเซอร์ ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านดิจิทัลคลาวด์และระบบรักษาความปลอดภัยกล่าวว่า โควิด-19 เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการทำงานผู้บริโภคไป
เชื่อว่าแม้โควิด-19 จะสิ้นสุดแต่แนวโน้มการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่จะยังดำเนินต่อโดยมีการอ้างอิงรายงาน ฟยอร์ดเทรนด์ปี 2564 ที่มีการเก็บข้อมูลจากเครือข่ายนักออกแบบและสร้างสรรค์งานระดับโลกของเอคเซนเซอร์ ที่พบว่าองค์กรต่าง ๆ จะนำกลยุทธ์ บริการ และประสบการณ์ใหม่ ๆ ไปตอบสนองความต้องการผู้บริโภคมากขึ้น
ทั้งยังคาดว่า 7 เทรนด์ที่จะเกิดได้แก่ 1.การใช้ชีวิตวิถีใหม่ใช้บ้านเป็นที่ทำงานและเรียนมากขึ้น สิ่งที่ธุรกิจต้องทำ คือเข้าหาผู้บริโภคจากที่บ้านด้วยออนไลน์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อ เช่น ห้างฯมีบริการ Chat and Collect ลูกค้าพูดคุยกับพนักงานขายได้เหมือนมาซื้อสินค้าที่ห้าง
2.นวัตกรรม DIY ผู้บริโภคต้องการสินค้าที่ปรับแต่งได้เอง ซึ่งเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาช่วยดึงความคิดสร้างสรรค์ออกมาเช่น TikTok เปิดให้คนเข้ามาสร้างคอนเทนต์ได้ เป็นต้น ดังนั้น ธุรกิจต้องคิดโซลูชั่นใหม่ดึงให้ผู้บริโภคเข้ามาสร้างสินค้าที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
ดึงเทคโนโลยีพัฒนาองค์กร
3.ทีมที่หลากหลาย เป็นเทรนด์ที่มีความสำคัญในปีนี้ เพราะทำงานที่บ้านทำให้การปฏิิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานลดลง องค์กรจึงต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยตอบโจทย์นี้เพื่อให้พนักงานสื่อสารกันง่ายขึ้น
และเป็นโอกาสที่องค์กรจะหาบุคลากรที่มีความสามารถจากทุกที่ 4.ท่องโลกแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ลูกค้าหรือพนักงานต้องการมีบทบาทต่อบทสนทนามากขึ้น เช่น คลับเฮาส์ เปิดให้ผู้มีความรู้เข้ามาแบ่งปันความรู้ได้ และถามได้ในแง่องค์กรต้องคิดใหม่เรื่องการออกแบบ คอนเทนต์ เพื่อสร้างความแตกต่าง
5.ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เปลี่ยนไป องค์กรต้องคิดใหม่เรื่องซัพพลายเชนและการใช้สินทรัพย์ทางกายภาพว่าจะทำให้ผู้บริโภคใช้ได้ง่ายขึ้น
6.แบรนด์ที่ใส่ใจอย่างจริงใจ ซึ่งมีความสำคัญมากต่อสังคม เช่น เทเลคอมหลายรายให้ใช้เน็ตฟรีช่วงล็อกดาวน์ ดังนั้น องค์กรต้องจัดการเรื่องแบรนด์ให้ดี
และ7.พิธีกรรม ผู้บริโภคคุ้นชินกับการใช้ชีวิตใหม่ทำให้พิธีกรรมต่าง ๆ เปลี่ยนไปซึ่งองค์กรควรทำความเข้าใจและปรับแนวทางให้สอดรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ชูบิ๊กดาต้า สร้างความได้เปรียบ
“วิชัย แสงหิรัญวัฒนา” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โกลบเทค จำกัด ผู้ให้บริการข้อมูลแผนที่ดิจิทัล แบรนด์ “นอสตร้า” กล่าวว่า ผลศึกษาฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ระบุว่า โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ธุรกิจทั่วโลกนำเทคโนโลยีและบิ๊กดาต้ามาใช้วิเคราะห์
เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า สร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน และปีนี้ธุรกิจต้องเผชิญกับดิจิทัลดิสรัปชั่นที่รุนแรงขึ้นโดยเฉพาะค้าปลีก อีคอมเมิร์ซ ดีลิเวอรี่ และเฮลท์แคร์ สอดคล้องกับเทรนด์ทรานส์ฟอร์เมชั่นของธุรกิจปีนี้ แบ่งเป็น3 กลุ่มใหญ่ คือ 1.smart living & smart business กระแสเทคโนโลยี 5.0 กำลังมา
ธุรกิจจะนำบิ๊กดาต้า AI และ 5G มาเชื่อมโยงกับอุปกรณ์อัจฉริยะมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเฮลท์แคร์ที่ถูกดิสรัปต์จากพวกสมาร์ทวอตช์ที่สามารถบอกข้อมูลสุขภาพได้ โรงพยาบาลจึงปรับแนวทางการทำงานเป็นการรักษาเพื่อป้องกัน อนาคตสมาร์ทวอตช์อาจส่งข้อมูลให้แพทย์ได้โดยตรง
2.smart mobility เทคโนโลยีการขนส่งและการเดินทาง ธุรกิจจะตระหนักปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงหันมาพัฒนารถ AV (automationvehicle) และ EV (electric vehicle) ส่วนผู้บริโภคก็ชะลอการซื้อรถออกไปจากปัญหาเศรษฐกิจ
ทำให้ธุรกิจเช่ารถเติบโต 3.GeoData ดาต้าจะกลายเป็นสิ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจอย่างมหาศาล ธุรกิจจึงหันมาใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้ามากขึ้นโดยเฉพาะอีคอมเมิร์ซ