กสทช. เล็งเคาะประมูลคลื่นสัมปทานดีแทค พ.ค. 2561 ราคาเริ่มต้นทะลุ 3.7 หมื่นล้านต่อไลเซนส์

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2560 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดเผยร่างหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz และ 1800 MHz ภายใต้สัมปทานระหว่าง บมจ.กสท โทรคมนาคม(แคท) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(ดีแทค) เพื่อเตรียมการประมูลก่อนที่จะสิ้นสุดสัมปทานในวันที่ 15 ก.ย. 2561

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า คณะทำงานสำหรับเตรียมประมูลคลื่นภายใต้สัมปทานดีแทคกับแคท ได้ยกร่างหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นก่อนหมดสัมปทาน เพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงานด้านโทรคมนาคม พิจารณาในวันที่ 6 พ.ย. ก่อนนำเสนอให้บอร์ด กสทช. พิจารณาวันที่ 8 พ.ย. 2560 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามคำมั่นสัญญาของบอร์ด กสทช. ที่จะทำให้การเปลี่ยนผ่านหลังสิ้นสุดสัมปทาน โดยไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการเยียวยาผู้ใช้บริการหลังสิ้นสุดสัมปทาน เพื่อให้มีการเคาะราคาประมูลได้ราวเดือน พ.ค. 2561 และมอบใบอนุญาตให้ผู้ชนะประมูลได้เสร็จเรียบร้อยไม่เกินเดือน ก.ค. หรือ ส.ค. 2561

โดยสาระสำคัญคือ คลื่นย่าน 900 MHz จะจัดประมูล 1 ใบอนุญาต ขนาด 5 MHz ราคาเริ่มต้นประมูล 37,988 ล้านบาท อายุใบอนุญาต 15 ปี

ส่วนคลื่นย่าน 1800 MHz จัดประมูล 3 ใบอนุญาต แถบคลื่น 15 MHz ต่อใบอนุญาต ราคาเริ่มต้น 37,457 ล้านบาทต่อใบอนุญาต อายุใบอนุญาต 15 ปี

โดยผู้เข้าประมูลแต่ละรายสามารถเข้าประมูลแต่ละย่านความถี่ได้แค่ 1 ใบอนุญาต แต่กรณีคลื่น 1800 MHz หากมีผู้เข้าประมูลแค่ 3 ราย กสทช.จะนำคลื่นออกประมูลแค่ 2 ใบอนุญาตเท่านั้น ขณะที่เงื่อนไขการชำระเงินและการขยายโครงข่ายต่างๆ จะยึดตามเงื่อนไขการประมูลครั้งก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในตลาด

ส่วนบริษัท แจส โมบายบรอดแบนด์ จำกัด ที่เคยทิ้งใบอนุญาตในการประมูลคลื่นครั้งก่อน สามารถเข้าประมูลในครั้งนี้ได้ หากได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ครบถ้วน เนื่องจากได้เสียค่าปรับต่างๆ ตามคำสั่ง กสทช. ครบแล้ว แต่หากผู้ชนะประมูลคลื่นครั้งนี้ไม่ชำระเงินค่าประมูล ทิ้งใบอนุญาตจะถูกริบเงินประกัน 5% ของราคาเริ่มต้นประมูล และค่าปรับอีก 15% รวมราว 7,700 ล้านบาท