คอลัมน์ pawoot.com ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ
Personal information management การบริหารข้อมูลส่วนตัวด้วยออนไลน์เป็นอย่างไร ผมเชื่อว่าหลายคนมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลส่วนตัวไว้ ยกตัวอย่างเวลาที่เราโดนขอสำเนาบัตรประชาชน ขอทะเบียนบ้านพาสปอร์ต หรือเอกสารต่าง ๆ บางครั้งอาจลืมเอาติดตัวมาด้วย แล้วจะทำอย่างไร
มีวิธีการบางอย่างที่ผมใช้อยู่ในปัจจุบันคือ ผมจะสแกนเอกสารหรือถ่ายรูปเอกสารทุกอย่างของผมเข้าไปเก็บไว้ในคลาวด์หมดเลย เมื่อถึงเวลาที่ต้องการใช้ก็ดึงออกมาใช้ได้ทันที
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
หลายคนอาจยังไม่เคยใช้ ผมจึงอยากให้ทุกคนลองทำการสำรองข้อมูลเอกสารไว้ อาจจะถ่ายรูปเก็บไว้ในคลาวด์ อาจเป็นคลาวด์ที่คุณใช้อยู่อย่างของ Google Drive ตัว Apple ก็เป็น iCloud ก็อัพโหลดเข้าไปได้
ผมเชื่อว่าจะช่วยให้สะดวกสบาย ถึงแม้ว่าคุณจะมีหรือไม่มีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือก็ตาม
นอกจากนั้นยังมีวิธีการเก็บข้อมูลตัวอื่น เช่น ข้อมูลพาสเวิร์ดต่าง ๆ ส่วนตัวผมใช้ซอฟต์แวร์ที่เป็นซอฟต์แวร์ในการบริหารเกี่ยวกับเรื่องพาสเวิร์ด คุณใช้บราวเซอร์ตัวไหน เช่น Google Chrome หรือตัวอื่น ๆ จะมีระบบจัดการเก็บหรือจำพาสเวิร์ดไว้ให้
แต่ก็อยากให้ระวังนิดหนึ่ง บางทีที่เราอยู่ข้างนอกแล้วอยากใช้ข้อมูลนั้น แต่การเก็บข้อมูลไว้ในบราวเซอร์ก็อันตราย ถ้ามีคนมาใช้คอมพิวเตอร์หรือมาใช้มือถือของเรา เขาเข้าไปดูพาสเวิร์ดของเราย้อนหลังได้หมดเลย
มันมีซอฟต์แวร์ในการบริหารพาสเวิร์ดส่วนตัว ตัวแรกที่ผมใช้ชื่อ 1Password ต้องจ่ายเงินแบบครั้งเดียว แต่ใช้มาเกือบ 10 ปีแล้ว
อีกตัวที่ใช้ฟรีคือ LastPass สามารถเก็บข้อมูลพาสเวิร์ดต่าง ๆ หากลงไว้ในคอมพิวเตอร์หรือมือถือของเรามันทำหน้าที่เก็บพาสเวิร์ดทั้งหมดไว้ให้
ในแง่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลใครที่ยังเป็นกระดาษอยู่ ผมแนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นดิจิทัล ไม่แค่เพียงพาสเวิร์ด เอกสารส่วนบุคคลต่าง ๆ ซึ่งผมเก็บแม้กระทั่งใบประกาศนียบัตรต่าง ๆ อยากให้ทุกคนเริ่มหัดใช้พวกนี้
เพราะข้อมูลจะอยู่ที่ปลายมือของคุณอยากได้ข้อมูลอะไร กดเข้าไปก็นำมาใช้ได้เลย ข้อมูลอีกอย่างที่ผมเก็บไว้คือ รูปภาพ
ซึ่งบางคนจะชอบเก็บรูปภาพไว้ในฮาร์ดดิสก์ แต่ผมจะโยนทั้งหมดเข้าไปใน Google Photo เมื่อก่อนให้ใช้ฟรี ผมเก็บไว้เป็นแสนภาพ จุดเด่นของมันคือเก็บข้อมูลย้อนหลังได้ ดูได้ตามไทม์ไลน์ที่เราถ่ายไว้
ฉะนั้น ในช่วงที่ผ่านมาตลอดหลายปี ผมอัพโหลดรูปภาพเก่า ๆ ไว้ใน Google Drive ทำให้ผมเรียกดูใน Google Photo ได้หมด
จุดเด่นของ Google Photo คืออยากหาข้อมูลใคร อยากได้ภาพของใคร แค่พิมพ์ชื่อเข้าไปก็จะได้ภาพคนนั้นเลยเพราะในระบบ App Photo หรือรูปภาพเหล่านี้มีระบบ
หรือ AI วิเคราะห์หน้าอยู่แล้ว คือเราต้องแมปชื่อกับใบหน้านั้น ๆ ให้กูเกิลรู้จักไว้ก่อน คล้าย ๆ เวลาที่เราโพสต์ Facebook นั่นแหละครับ เวลาที่ผมต้องการรูปไหน ก็พิมพ์คำนั้นก็จะขึ้นภาพนั้น
และตอนนี้ Google Photo เพิ่งเปิดระบบที่เราดูภาพตามแผนที่ได้
อยากบอกว่า ตอนนี้ใครมีภาพเป็นหมื่นเป็นแสนภาพให้รีบอัพโหลดเข้าไปก่อนนะครับ เพราะเขากำลังจะเริ่มเก็บเงินภาพที่อัพโหลดเข้าไปหลังวันที่ 1 มิ.ย.นี้แล้ว แต่ผมก็ว่าน่าจะไม่ได้แพงอะไรนัก ดีกว่าที่เราต้องไปซื้อฮาร์ดดิสก์เก็บไว้ เวลาต้องการดูก็ต้องเปิดคอมต่อสาย อะไรต่อมิอะไร
ยิ่งเดี๋ยวนี้ รูปภาพของเราอยู่ในโทรศัพท์เป็นหมื่นภาพ เวลาซื้อโทรศัพท์ใหม่ก็ต้องซื้อแบบที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เก็บข้อมูลเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรูปภาพหรือวิดีโอ แต่หากว่าคุณซื้อบริการพวกคลาวด์ พอถ่ายรูปปุ๊บภาพจะอัพโหลดเข้าไปในคลาวด์โดยอัตโนมัติ ลบภาพในมือถือได้เลย ไม่ต้องไปซื้อรุ่นแพง ๆ ไว้เก็บข้อมูลอีกต่อไป
ฝากท่านผู้บริหารเลยครับ ว่าไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรที่แพงขนาดนั้น ที่มันแพงก็เพราะค่า storage แพง อีกอย่างบางคนมือก็เล็ก
แล้วซื้อรุ่นใหญ่ก็ไม่เหมาะกับมือ ควรเลือกรุ่นที่เหมาะกับมือ และเอาความสามารถในเรื่องการเก็บเอกสารทั้งหมดเอาขึ้นไปอยู่บนคลาวด์
ฉะนั้น โทรศัพท์มือถือของคุณก็ไม่จำเป็นจ่ายเกินความจำเป็นอีกต่อไป