“เจมาร์ท” ส่ง JFIN บูมตลาดดิจิทัลโทเคน

“เจมาร์ท” เปิดเกมใหม่ปลุกตลาด “คริปโทเคอร์เรนซี” ผนึก บริษัทในเครือลุยแคมเปญ “ลด แลก แจก” ผ่านเหรียญ “JFIN” เจาะลูกค้าคนรุ่นใหม่ ปั้นรายได้เพิ่มเดือนละ 70 ล้านบาท พร้อมจ่ายผลตอบแทนพนักงานเป็นเดิจิทัลโทเค็นกระตุ้นการเรียนรู้

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือเจมาร์ท กล่าวว่า บริษัทเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี และมองว่า “Decentralized Finance” (DeFi)

หรือการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนจะเข้ามาดิสรัปต์ธุรกิจจึงนำเหรียญโทเค็นดิจิทัล JFIN เข้ามาใช้ในกลุ่มบริษัท ในลักษณะ Utility Token (นำไปใช้เพื่อประโยชน์ด้านใดด้านหนึ่ง)

เพื่อสร้างระบบนิเวศในการใช้งาน โดยผนึกกำลัง 7 บริษัทในครือ ได้แก่ เจมาร์ท โมบาย, เจ เอ็ม ที, เจ อินชัวรันซ์, เจเอเอส แอสเซ็ท,ซิงเกอร์ประเทศไทย, บีนส์แอนด์บราวน์

และเคบี เจ แคปปิตอล ภายใต้แคมเปญ “ลด แลก แจก” เพื่อใช้เหรียญ JFIN รับส่วนลดแลกสินค้าหรือรับสินค้าและบริการฟรี จากบริษัทในเครือ

ทั้งยังสนับสนุนให้พนักงานราว 9,000 คน เรียนรู้การใช้โทเค็นดิจิทัลผ่านโครงการ “ETOP” แจกเหรียญให้พนักงานจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน และมีแผนจ่าย incentive พนักงานด้วยเหรียญ JFIN

“เราต้องการขับเคลื่อนธุรกิจผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นจุดเริ่มต้นของการนำ JFIN โทเค็นดิจิทัลโดยบริษัท เจเวนเจอร์ส จำกัด ระดมทุนในรูปแบบ ICO (initial coin offering) เป็นรายแรกของไทย ในปี 2561”

ปัจจุบันมี JFIN กระจายในตลาด 100 ล้านเหรียญ ถือว่ามีปริมาณมากพอกับความต้องการ และคาดว่าหลังเปิดตัวโครงการนี้จะมี JFIN หมุนเวียนในระบบกว่า 582,500 เหรียญ ตั้งเป้าดึงฐานลูกค้าในเครือเจมาร์ทกว่า 7 ล้านคน หันมาใช้เหรียญนี้ และเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาใช้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน สร้างรายได้ 70 ล้านบาท/เดือน

นายอดิศักดิ์กล่าวต่อว่า โครงการนี้ยังอยู่ในเฟสแรกที่มุ่งสร้างความคุ้นเคย เมื่อพนักงานและลูกค้าเข้าใจการใช้งานของเหรียญดิจิทัลแล้วจะขยายไปเฟส 2 โดยจับมือกับพาร์ตเนอร์นอกกลุ่มอีก 3-4 ราย

เพื่อขยายการรับรู้ให้กว้างขึ้น โดยมีแผนที่พัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขาย และระบบยืนยันตัวตนให้รองรับกับปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

“แม้โควิด-19 จะกลับมาระบาดอีกระลอก แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อธุรกิจในเครือเจมาร์ทมากนัก เรายังตั้งเป้าการเติบโตไว้เหมือนเดิม คือ ไม่ต่ำกว่า50% จากปีที่แล้วที่มีรายได้สุทธิอยู่ที่ 11,204 ล้านบาท”

ด้านนายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การนำ JFIN มาแลกเป็นสินค้า (redeem) ภายในกลุ่มเจมาร์ท

ด้วยจุดแข็งของบริษัทในกลุ่มเจมาร์ทที่มีธุรกิจหลากหลาย ทั้งค้าปลีก การเงิน ประกัน และอสังหาริมทรัพย์ มีฐานลูกค้าจำนวนมากจะทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมากขึ้นและถือเป็นรายแรกในการปฏิวัติวงการคริปโทฯที่ชัดเจนที่สุด