
เอปสัน เผยภาคธุรกิจปีนี้เหนื่อยต่อ เจอปัจจัยลบรอบด้าน ทั้งการแพร่ระบาดโควิดไม่จบ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำต้นทุนขนส่งพุ่ง กางแผนปี 2565 ชูกลยุทธ์ 5S เร่งสร้างการเติบโต คาดสิ้นปีโต 10% จากปี 2564
วันที่ 22 มีนาคม 2565 นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมก็ยังชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภค นอกจากนี้ภาคธุรกิจยังต้องเผชิญกับปัจจัยลบเพิ่มอีก ทั้งผลกระทบจากสงครามรัสเซีย ยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น กระทบต่อธุรกิจโลจิสติกส์ ปัญหาซัพพลายขาดที่คาดว่าจะยังคงอยู่
อย่างไรก็ตามในส่วนเอปสันคาดว่าผลการดำเนินปี 2564 (เมษายน 2563-มีนาคม 2564) ยังคงเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 9% จากปี 2563 จากการเติบโตของทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 และกระแสดิจิทัลทรานส์ฟอเมชั่น จากสถาบันศึกษากลับมาเปิดทำการเป็นปกติในบางช่วง รวมไปถึงการออกมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของภาครัฐ และการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีและการใช้เงินกู้ในโครงการต่าง ๆ
ขณะที่ทิศทางธุรกิจปี 2565 แม้จะมีปัจจับลบเพิ่มขึ้น แต่บริษัทก็ยังสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 2564 ด้วยการเดินหน้าภายใต้กลยุทธ์ 5S ดังนี้
1.เทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Technology) เอปสันมุ่งที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงาน หรือ TCO (Total Cost of Ownership) ให้กับลูกค้าได้มากกว่าเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์เดิมที่ใช้อยู่ เช่น เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่ใช้เทคโนโลยี Heat-Free เป็นต้น โดยปี 2565 มีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในทุกกลุ่มมากกว่า 20 รุ่นตลอดทั้งปี
2.การสร้างโมเดลธุรกิจที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเริ่มลงทุนกับเอปสันได้ง่าย ๆ (Simple Start) โดยที่ผ่านมา บริษัทได้ออกโมเดลเช่าเครื่องแบบใหม่ในชื่อ ‘Epson EasyCare 360 เหมา เหมา’ ช่วยให้การพิมพ์งานของลูกค้าเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องกังวลกับการคำนวณค่าใช้จ่ายในการพิมพ์สีหรือขาวดำ รวมถึงค่าบำรุงรักษาและค่าหมึก เพราะเพียงเหมาจ่ายราคาเดียว พิมพ์ได้มากสุด 120,000 แผ่น หรือนาน 24 เดือน ทั้งยังได้ on-site service และรับเครื่องที่ใช้อยู่ไปฟรี ๆ หลังหมดสัญญา ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี
โดยบริษัทเตรียมที่จะออกโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ อาทิ บริการให้เช่าเครื่องโปรเจคเตอร์ ซึ่งเน้นจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการการบริการดูแลและบำรุงรักษา แต่ไม่ต้องการเก็บเครื่องเป็นทรัพย์สินของบริษัท และไม่ต้องการจ้างพนักงานประจำสำหรับดูแลซ่อมเครื่อง
3.การก้าวเข้าสู่ S-curve ใหม่ เพื่อสานต่อการเติบโตทางธุรกิจ และมีสินค้าใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องที่ต้องการที่เกิดใหม่ ๆ เช่น การเปิดตัว PaperLab เครื่องรีไซเคิลกระดาษแบบแห้งเครื่องแรกของโลกในภูมิภาคนี้ ด้วยเทคโนโลยี Dry Fiber ของเอปสันเอง เป็นต้น อีกทั้งบริษัทฯ ยังจะเปิดตัวหุ่นยนต์แขนกลเพิ่มขึ้น เช่น รุ่น T-B Series Scara Robot ที่เปิดตัวในงาน Metalex March 2022 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับความต้องการของโรงงานผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น
4.การพัฒนาด้านการบริการ (Service Excellence) เริ่มตั้งแต่การลงทุนขยายศูนย์บริการเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการโดยปัจจุบันมี 184 สาขาทั่วประเทศ และมีถึง 164 สาขาที่สามารถให้บริการ on-site service ถึงสำนักงานของลูกค้าทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากนี้จะเพิ่มจำนวนสาขาที่สามารถให้บริการ on-site service ได้มากขึ้น และให้ครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้เพิ่มช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มความสะดวกในการติดต่อกับทีมงานและติดตามข่าวสารของเอปสัน
5.ด้านความยั่งยืน (Sustainable Value) ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น มีนโยบายในการดำเนินธุรกิจโดยยึดกรอบปฏิบัติตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งมีด้วยกัน 17 เป้าหมาย โดยปีนี้ บริษัทได้เน้นที่ 5 เป้าหมาย ได้แก่ การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ, อุตสาหกรรม นวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐาน, แผนการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน, การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน