“เร้ดแฮท” ช่วยองค์กรพัฒนานวัตกรรมรับมือ “ไฮบริดเวิร์ก”

“เร้ดแฮท” ผู้ให้บริการโซลูชั่นโอเพ่นซอร์ส ช่วยองค์กรพัฒนานวัตกรรมรับมือ “ไฮบริดเวิร์ก”

วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 เร้ดแฮท อิงค์ (Red Hat) ผู้ให้บริการโซลูชั่นโอเพ่นซอร์ส ขยายพอร์ตโฟลิโอบริการคลาวด์ (Red Hat Cloud) และระบบปฏิบัติการ Red Hat Enterprise Linux 9 (RHEL9) รองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันสมัยใหม่สำหรับองค์กร รองรับสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริด

จากรายงานของ IDC บริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมระบุว่า ภายในปี 2567 องค์กร 50% จะใช้แอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นจากแนวคิดการให้บริการคลาวด์ รวมทั้งเทคโนโลยีคลาวด์เนทีฟ ช่วยให้เกิดความสอดคล้องในการทำงานจากทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตามส่งผลให้องค์กรจำเป็นต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบไฮบริด เพื่อช่วยบรรเทาความซับซ้อนที่มาพร้อมกับความต้องการปรับขยายได้

นางสาวสุพรรณี อำนาจมงคล ผู้จัดการเร้ดแฮท ประจำประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์โควิดมีหลายสิ่งที่เกิดกับการทำงานในองค์กร และนวัตกรรมมีความสำคัญเพิ่มขึ้น ซึ่งโอเพ่นซอร์สคอมมูนิตี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมขององค์กร

“เมื่อนักพัฒนาเห็นว่าทำงานที่ไหนก็ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือทำอย่างไรให้นักพัฒนาซอฟแวร์มีประสบการณ์ หรือสกิลเซตหนึ่งเดียวที่จะทำให้แอปพลิเคชั่นที่พัฒนาปรับเข้ากับ Private Cloud, Plubic Cloud, On premise หรือ Hybridge Cloud ได้ ขณะที่คนดูแลระบบก็ดูแลระบบจากทุกที่ได้ง่ายขึ้น”

เพื่อสนับสนุนความพยายามขององค์กรในการพัฒนาแอปพลิเคชันบนระบบคลาวด์ เร้ดแฮทจึงมีบริการด้านคลาวด์ใหม่ ๆ เช่น Red Hat OpenShift Service Registry อำนวยความสะดวกให้ทีมพัฒนาเผยแพร่ ค้นหา และนำ application programming interfaces (APIs) และแบบแผนจำลองมาใช้ซ้ำได้, Red Hat OpenShift Connectors ที่สร้างการเชื่อมต่อไว้ล่วงหน้าไปยังระบบต่าง ๆ ของบุคคลที่สาม และเปิดใช้การผสานการทำงานแบบไม่มีโค้ด กับ Red Hat OpenShift Streams สำหรับ Apache Kafka เป็นต้น

ทั้งเปิดโอกาสให้ลูกค้าบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้นด้วยระบบ Subscription ทำให้ยืดหยุ่นตามการใช้งาน และเพิ่มสะดวกเมื่อต้องการย้ายคลาวด์ไปยังที่อื่นๆ เมื่อต้องเปลี่ยนเทคโนโลยี หรือทรานส์ฟอร์มบริษัทให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโดยที่ค่าใช้จ่ายยังเหมือนเดิม

ด้านนายตะวัน จิตรถเวช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่าการนำโอเพ่นซอร์สไปใช้ในการสร้างนวัตกรรมเพื่อทรานส์ฟอร์มธุรกิจนั้นเป็นสิ่งที่ KBTG มองว่าต้องทำให้การใช้เทคโนโลยีเป็นวัฒนธรรมขององค์กร ซึ่งต้องการความต่อเนื่องและมีพาร์ทเนอร์ที่ดีที่คอยช่วย

“กสิกรมีนโยบายที่จะใช้คลาวด์เฟิร์สมาหลายปีแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะขึ้นไปอยู่บนคลาวด์ได้ สิ่งที่เร้ดแฮท ให้คือทางเลือกที่จะปรับแอปพลิเคชั่นได้หลายที่ ข้อสำคัญอย่างหนึ่งคือจุดมุ่งที่เรามีต่อลูกค้า การใช้งานทางธุรกิจมาก่อน แล้วหาเทคโนโลยีที่จะก้าวไปข้างหน้า การมีพาร์ทเนอร์ทางเทคโนโลยี”

นายภควัต นนท์คุณากร รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทางวิศกรรม ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป กล่าว่าปกติโอเพ่นซอร์ มีพลังสูงมาก เพราะเกิดจากสมองของคนหมู่มาก เป็นการใช้คอมมูนิตี้ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ตั้งแต่ปัญหาเล็กๆ ระดับองค์กร ถึงปัญหาระดับชาติ แต่ไม่ใช่ว่าองค์กรจะใช้โอเพ่นซอร์สอะไรก็ได้ ต้องพิจารณาว่ามีอนาคตไหม เพราะใช้เพื่อพัฒนาคนในองค์กร


และต้องเปิด API ให้บุคคลอื่นรวมถึงนักพัฒนาในองค์กรมีส่วนร่วมกันได้ ฉะนั้นต้นทุนของการพัฒนาบุคคลากรจะตามมา สิ่งที่จะได้ คือนักพัฒนาซอฟแวร์ขององค์กรรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมกับนักพัฒนาในภาพรวมของโอเพ่นซอร์สนั้น